ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญหากคุณนั้นกำลังประสบกับปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินจากการทำธุรกิจ แต่ก็ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเราจะพาไปรู้จักกับ สมาร์ทฟินน์ (Smartfinn) เป็นระบบแมทชิ่งขายฝากอสังหาริมทรัพย์แบบออนไลน์ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเงิน และมีโฉนด เมื่อไปธนาคารไม่ได้ หรือโดนปฏิเสธจากสถาบันการเงิน มาพบกับ "Smartfinn" ซึ่งสามารถจะแมทชิ่งให้คุณได้เจอกับนักลงทุนใจดี คิดดอกเบี้ยต่ำเพียง 9% ต่อปี หรือ 0.75% ต่อเดือน ตรงนี้แหละมีโอกาสให้คุณได้รับเงินก้อนไปต่อยอดธุรกิจได้
โดยทาง "ไทยนิวส์ออนไลน์" ของเรานั้นได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงในการพูดคุยกับ ดร.ปริสุทธิ์ รัตนมหาวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สมาร์ทฟินน์ โซลูชั่นส์ จำกัด ซึ่งจะมาให้ข้อมูลแบบจัดเต็มและบริการดี ๆ จาก "Smartfinn" โดยดร.ปริสุทธิ์ ได้เปิดเผยว่า "Smartfinn" เราทำหน้าที่แมทชิ่ง ผู้ขายฝากให้ได้เจอกับนักลงทุนที่ใจดี โดยดึงข้อดีของทั้งสองฝั่งคือ ดอกเบี้ยต่ำใกล้เคียงธนาคาร และอนุมัติเร็ว ใช้เอกสารไม่เยอะไม่ยุ่งยาก”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า "Smartfinn" เหมือนเป็นตัวกลางระหว่างนักลงทุนกับผู้ใช้บริการใช่หรือไม่ ดร.ปริสุทธิ์ ได้เปิดเผยว่า สมมติว่าคนที่ต้องการใช้เงินเป็น SMEs แล้วมีโฉนด แล้วต้องการใช้เงิน เมื่อเขาต้องไปของสินเชื่อธนาคารไม่ได้ แทนที่จะต้องไปนอกระบบ เจอดอกเบี้ยสูง ๆ มาเจอเรา เราจะทำหน้าที่ช่วยให้คุณได้เจอดอกเบี้ยใกล้เคียงกับสถาบันการเงิน ได้เจอกับนักลงทุนที่ใจดี”
โดย ดร.ปริสุทธิ์ ได้กล่าวถึงจุดแข็งของ Smartfinn คือ เราเดินทางมา ปีนี้เราเข้าสู่ปีที่ 7 ปีหน้าเข้าสู่ปีที่ 8 เราเดินทางมาตรงนี้ได้ช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก สามารถดูที่หน้าเว็บไซต์ได้เลย แล้วที่สำคัญเราเป็นบริษัท มีตัวตนที่ชัดเจน คือลูกค้าหลาย ๆ ครั้ง เวลาไม่มีทางออกทางการเงิน จะถูกชักชวนไปเจอกับนายทุนเป็นบุคคล ลูกค้าอาจจะกังวลว่า แล้วที่ดินฉันจะตามคืนได้กับใคร
ส่วนฝั่งนักลงทุนก็จะกังวลว่าจะตามเงินได้กับใคร หรือต้องไปตามทวงเอง เมื่อมาที่สมาร์ทฟินน์ก็จะหมดกังวลเรื่องเหล่านี้เลย คือเรามีทุกอย่างที่ชัดเจน มีที่ตั้งชัดเจนสามารถมาหาเราที่บริษัทได้ เรามีแต่ละแผนกที่ช่วยคัดกรองทรัพย์ของคุณลูกค้าด้วยราคายุติธรรม และที่สำคัญคือเรามีมืออาชีพในทุก ๆ ด้าน เพราะว่าเราเปิดทำการกันมานานแล้ว”
เมื่อถามต่อว่า ความแตกต่างระหว่าง Smartfinn กับธุรกิจที่คล้าย ๆ กัน ดร.ปริสุทธิ์ ได้เปิดเผยว่า เราแตกต่างมาก ๆ เลยคือเรื่องดอกเบี้ยที่ต่ำ อย่างที่สองคือเราอนุมัติไว สมมติว่าคุณมีปัญหาทางการเงินแล้วไปพึ่งนอกระบบ จะไปเจอดอกเบี้ยที่สูงต่อเดือน เดือนละ 2-3% ปีหนึ่งตก 24% หรือ 36% ซึ่งเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่ที่นี่จะคิดดอกเบี้ยเพียง 9% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงสถาบันการเงิน
แต่สำหรับผู้ประกอบการถ้าไปสถาบันการเงินอาจไม่ทันการณ์ บางครั้งกว่าจะอนุมัติก็ใช้เวลาหลายเดือน แล้วก็ต้องตรวจเครดิตบูโร ใช้เอกสารมากมาย แต่ของเราใช้เวลาหลังทราบราคาประเมินเพียงแค่ 3-7 วันทำการ ก็สามารถรับเงินก้อนได้ ถ้าในกรุงเทพมหานครจะใช้เวลาไม่นาน อย่างเร็วที่สุดคือ 1-3 วันทำการ
ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่คนสงสัยและอยากทราบมากที่สุดคือ Smartfinn ไม่เช็กเครดิตบูโร ซึ่ง ดร.ปริสุทธิ์ ได้เปิดเผยว่า เราดูที่ตัวหลักทรัพย์เป็นหลัก แล้วต้องบอกว่าในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมาหลาย ๆ ท่านการเดินบัญชีไม่เหมือนเดิม เพราะฉะนั้น หากติดปัญหาเรื่องเครดิตบูโร ก็ยังสามารถกู้ได้ “กู้ได้ เพราะเราดูที่ตัวหลักทรัพย์เป็นหลัก ไม่เช็กเครดิตบูโรและประวัติการเดินบัญชี”
ฝากถึงคนที่มีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินแต่ยังลังเล อยากให้พูดถึงบริการของ Smartfinn ว่าจะสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการเดินหน้าต่อได้อย่างไรบ้าง ดร.ปริสุทธิ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้หากคุณลูกค้าเจอวิกฤตแล้วมีโฉนด ก่อนที่คุณลูกค้าจะตัดสินใจว่าจะเลือกที่ไหนดี เพราะว่าบ้านของเราใครก็รัก ที่ดินของใครใครก็รัก ลองมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และศึกษาข้อมูลดูก่อน
เพราะที่สมาร์ทฟินน์ เราให้ข้อมูลกับคุณลูกค้าครบถ้วน ทุกอย่างชัดเจน ต้องบอกว่าเป้าหมายของ Smartfinn ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เรามีโอกาสได้ช่วยในกลุ่ม SMEs หรือบุคคลทั่วไปที่มาขายฝาก เป็นวงเงินหลายพันล้านแล้ว และคิดว่า Smartfinn จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้คุณลูกค้าเดินหน้าธุรกิจได้อย่างไม่สะดุด พร้อมเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ใกล้เคียงกับสถาบันการเงิน และอนุมัติไว
หากท่านไหนที่สนใจการขายฝากหรือลงทุนกับสมาร์ทฟินน์สามารถเข้าไปได้เลยที่เว็บไซต์ https://www.smartfinn.co.th/ หรือแอดไลน์มาที่ @Smartfinn เพื่อปรึกษาปัญหาและสอบถามเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ของสมาร์ทฟินน์เตรียมพร้อมเสมอที่จะให้บริการคุณ