เซ็นทรัล รีเทลส่ง เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ นั่งแม่ทัพคนใหม่ โรบินสันไลฟ์สไตล์

18 มิถุนายน 2567

เซ็นทรัล รีเทลส่ง “เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์” นั่งแม่ทัพคนใหม่แห่งโรบินสันไลฟ์สไตล์ ตอกย้ำการเป็นศูนย์การค้าที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุดทั่วไทย


เซ็นทรัล รีเทล ประกาศแต่งตั้ง“เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์” ขึ้นรับตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าต่อด้วยกลยุทธ์หลัก“Lifestyle and Experiential Community”เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในแต่ละพื้นที่ทั่วไทยพร้อมเสริมแกร่งการเป็นศูนย์รวมทุกความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรทั้งห้างสรรพสินค้าร้านสเปเชียลตี้สโตร์ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมายรวมกว่า 1,000แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและระดับโลก

 

เพื่อตอกย้ำการเป็นศูนย์การค้าที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุดทั่วประเทศไทยสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์แบบครบจบในที่เดียว พร้อมยกระดับเศรษฐกิจไทยและเติบโตควบคู่ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

เซ็นทรัล รีเทลส่ง เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ นั่งแม่ทัพคนใหม่ โรบินสันไลฟ์สไตล์


นายเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์กรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า การเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้ นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการนำประสบการณ์การบริหารงานในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้มาอย่างยาวนาน มาขับเคลื่อนศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์สู่การเป็นศูนย์การค้ามิติใหม่ที่ทันสมัย เป็นศูนย์รวมความสะดวกสบายที่ครบครัน

 

เซ็นทรัล รีเทลส่ง เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ นั่งแม่ทัพคนใหม่ โรบินสันไลฟ์สไตล์

โดยจะยังคงยึดมั่นวิสัยทัศน์ในการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของทุกคนในชุมชน เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตในศูนย์การค้าที่แตกต่างและเหนือกว่า ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกครอบครัว ตอกย้ำการเป็นศูนย์การค้าที่มีสาขาครอบคลุมมากที่สุด 24จังหวัด ทั่วประเทศไทยมีผู้เช่ากว่า 5,000 ราย

 

ลูกค้ามากกว่า 100 ล้านคนต่อปี ในขณะเดียวกันพร้อมสร้างการเติบโตควบคู่ไปกับชุมชนอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายของ เซ็นทรัล รีเทลที่จะเป็น Central to Life ศูนย์กลางชีวิตของทุกคนอย่างแท้จริง


สำหรับแนวทางการบริหารศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์นั้น เน้น 3 หัวใจหลัก คือ “ลูกค้า – คู่ค้า – สังคม” ซึ่งจะเป็นการยกระดับ ecosystem ของศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ประกอบไปด้วย

 

1.    COMPLETE LIFESTYLE DESTINATION ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของกลุ่มลูกค้าเดิมและเพิ่มฐานกลุ่มลูกค้าใหม่กับการเป็น "EAT-SHOP-PLAY" เดสติเนชั่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดและครบจบในที่เดียวได้แก่

•  ยกระดับการเป็นศูนย์กลางในการใช้ชีวิตเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม FoodLover,กลุ่มModern Family,กลุ่ม Pet Loverและกลุ่ม Tourist Destination ด้วยการสร้างประสบการณ์พิเศษอยู่เสมอให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Special Project การCollaboration กับ World Class Artists โดยจะเริ่ม Roll Out ในสาขาที่เป็น Flagship Store ตั้งแต่การตกแต่งบรรยากาศของศูนย์การค้า การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดทำของสมนาคุณExclusive Collectionรวมถึงการสร้าง New Experiences อื่นๆในศูนย์การค้าฯ ให้กลายเป็นพื้นที่สุดพิเศษที่ทุกคนจะได้มาใช้ชีวิตและปลดล็อกไลฟ์สไตล์แบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกับกิจกรรมและอีเวนท์ที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกที่หลากหลายกว่า 52 อีเวนท์ครอบคลุม 27 สาขาทั่วไทย ตอบโจทย์ลูกค้าทุก Segment และช่วยสร้างรายได้ให้กับพันธมิตรร้านค้าในทุกช่วงเทศกาลและตลอดทั้งปี


•  สร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในทุกพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิด้วยประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยNight Walking Street, ลานนั่งเล่น, แฮงก์เอ้าท์ เพื่อให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ที่ครบวงจรตลอดวัน 


•  พัฒนาปรับปรุงสาขา ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้สมบูรณ์มากขึ้นด้วยแผนการรีโนเวทสาขาทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าทั้งหมด 14 สาขา โดยมีการปรับโฉมครั้งใหญ่ 5 สาขา ได้แก่ สระบุรี, กาญจนบุรี, สมุทรปราการ, ราชบุรี และสุรินทร์ โดยภาพรวมของแนวทางการออกแบบ จะเนรมิตบรรยากาศภายในของศูนย์การค้าด้วยงานศิลป์ตกแต่งเพิ่มความสดใสและการใช้ชีวิตที่แตกต่างภายในศูนย์การค้า มาพร้อมกับความสวยงามที่น่าประทับใจ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าNew Gen ที่ต้องการพื้นที่ในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น 


•  ต่อยอดธุรกิจและสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มครอบครัว โดยวางเป้าขยายธุรกิจ SUNDAY สวนสนุกเด็กในร่ม พื้นที่เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ไปยังสาขาของศูนย์การค้าฯ ทั่วไทย รวมถึงศูนย์อาหาร Food Park ศูนย์รวมความอร่อยจากร้านเด็ดชั้นนำ มีแผนรีโนเวทมากกว่า 10 สาขา เสริมกำลังด้วยร้านสตรีทฟู้ดชื่อดังและร้านค้าในกระแสของแต่ละพื้นที่ ทั้งยังมีการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ในพื้นที่ของศูนย์การค้าในหลายสาขา เช่น Outdoor Mall และ Strip Mall ซึ่งเป็นพื้นที่การเดินช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และมีแผนที่จะนำไปใช้ในการต่อยอดธุรกิจในอนาคต

 

2.    INCLUSIVE GROWTH FOR PARTNERS มุ่งเน้นการเชื่อมโยงการทำธุรกิจของคู่ค้าที่ครบวงจรแบบ B2B2C ร่วมกับการเสริมกำลังด้านบุคลากรและรูปแบบการทำงานร่วมกับพันธมิตรร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำรวมถึงบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ประกอบด้วย

 
•    นำเสนอ Total Solutions แก่ร้านค้าแบบครบวงจรผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำของไทย อาทิเช่นRobinson Department Store, Tops,Supersports, B2S, Power Buyและเน้นทำงานแบบ Proactive โดยมุ่งเน้นการสร้าง BusinessSuccess ให้แก่ร้านค้าและซัพพอร์ตแบบทุกมิติ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มศักยภาพของธุรกิจในระยะยาว


•    การขยายธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะกับการให้การสนับสนุนแบรนด์กลุ่มใหม่ ๆ ที่กำลังมาแรง อาทิ สุกี้ตี๋น้อย, โอ้กะจู๋, Shinkanzen Sushi เข้ามาอยู่ในศูนย์การค้าฯ ให้ธุรกิจคู่ค้าได้ขยายและเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน 


•    การสนับสนุนธุรกิจในพื้นที่และกลุ่ม Startupโดยการเปิดพื้นที่ให้เจ้าของธุรกิจเอสเอมอี และกลุ่ม Startupทั้งหลายในแต่ละพื้นที่ได้มีโอกาสเข้ามาออกร้านในศูนย์การค้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

3.    CREATESUSTAINABLE COMMUNITY โดยมุ่งเน้นกับการสร้างศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ ทั้งด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจในชุมชน และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ดีที่เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นศูนย์กลางของแต่ละจังหวัด ได้แก่
•    การเป็นศูนย์กลางการศึกษาของชุมชน โดยการผนึกกำลังสถาบันการศึกษา เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและเสริมทักษะของเยาวชนในด้านต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรม CSR ที่ได้ร่วมทำกับชุมชน อาทิ โครงการ “Funtastic English Class” ออกแบบความสุขสนุกยกคลาส มอบทุนการศึกษาเพื่อจัดจ้างครูชาวต่างชาติมาสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษแก่น้อง ๆ โรงเรียนวัดศรีสุนทร มิตรภาพ 15 และ โรงเรียนบ้านฉลอง เป็นระยะเวลา 1 ภาคการศึกษา, กิจกรรม “STUDENT FUN FAIR”เปิดประสบการณ์ความสนุก ส่งต่อความสุขนอกห้องเรียน


•    การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน ส่งเสริมการสร้างรายได้ในชุมชน โดยการสนับสนุนการจัดจ้างแรงงาน การเปิดพื้นที่สำหรับจัดจำหน่ายสินค้าร่วมกับชุมชนส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนและคนในสังคมอย่างยั่งยืน


•    การขับเคลื่อนธุรกิจศูนย์การค้าสู่การเติบโตแบบยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกค้าส่งต้นแบบด้านความยั่งยืน ช่วยลดการใช้ทรัพยากรชาติที่มีอย่างจำกัด สามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของศูนย์การค้า รวมถึงชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาทิ

 

  • ในปี 2560 - มีนาคม 2567ติดตั้ง Solar Rooftop ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์แล้วจำนวน 25สาขา รวมพื้นที่ 48.89เมกะวัตต์สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 538.33 ล้านบาท ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 73,145.48 TonCO2 โดยภายในปี 2567มีเป้าหมายติดตั้งSolar Rooftop 7 เมกะวัตต์เพิ่มใน 8 สาขา ได้แก่ปราจีนบุรี, มุกดาหาร, บุรีรัมย์, แม่สอด, เพชรบุรี, ชัยภูมิ, บ่อวิน, ถลางเป็นต้น เพื่อประหยัดพลังงานได้ 65.932เมกะวัตต์-ชั่วโมงประหยัดค่าไฟฟ้าเป็นเงิน 255.74 ล้านบาท ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 32,306,675TonCO2สอดรับนโยบายของ เซ็นทรัล รีเทล ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593

 

 

  • การจัดทำระบบ Chiller Plant Management นำระบบปรับอากาศแบบ AI มาใช้ภายในศูนย์การค้าเพื่อช่วยลดการใช้ไฟฟ้าพร้อมกับการติดตั้ง High Efficiency Chiller เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

 

  • การติดตั้ง EV Charging Station เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น อาทิ การจับมือร่วมกับ OR EV Station PluZขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ครอบคลุมทุกสาขา, การร่วมมือกับ Tesla ในการติดตั้ง Supercharger โดยเริ่มนำร่องที่สาขากำแพงเพชรเป็นที่แรกในเดือนธันวาคม 2566 และสาขากาญจนบุรี ในเดือนมีนาคม 2567 และมีแผนที่จะทยอยขยายการติดตั้งไปยังสาขาอื่น ๆ ต่อไปทั่วประเทศ 

 

  • โครงการพิเศษ การจับมือร่วมกับ ไทวัสดุ สำหรับโครงการสนับสนุนพื้นที่ชุมชนรอบสาขาฉลอง ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ในการลงทุนทำรางระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำเสียและช่วยลดปัญหาน้ำท่วมขังในชุมชน

ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบในฐานะของการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมของเรา 

เซ็นทรัล รีเทลส่ง เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ นั่งแม่ทัพคนใหม่ โรบินสันไลฟ์สไตล์

 

“หลักการบริหารของผม คือ Always Create the Best วันนี้เราทำดีแล้ว พรุ่งนี้ต้องดีขึ้นไปอีก ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยการผนึกกำลังพันธมิตรร้านค้าที่กำลังเป็นกระแส พร้อมกับกิจกรรมการตลาด การสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งใหม่ ๆ รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่ดูทันสมัยตามกระแสปัจจุบัน

 

พร้อมกับความเซอร์ไพรส์ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ เรายังขับเคลื่อนให้องค์กรมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งและไดนามิกก้าวทันกระแสโลก และอีกเรื่องที่ผมให้ความสำคัญ คือ เรื่องของบุคลากร ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญ โดยเรามีการพัฒนาคนทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว เช่น การเพิ่มศักยภาพหรือการพัฒนาด้วยความรู้ใหม่ ๆ เพื่อทำให้องค์กรพัฒนาก้าวไกลอย่างไม่หยุดยั้ง”นายเลิศวิทย์ กล่าว

 

เกี่ยวกับ“คุณเลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์”


นายเลิศวิทย์ ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ เข้าใจ กับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาที่ดินเพื่อการค้าปลีก รวมถึงการทำธุรกิจค้าปลีกในภาพรวมเป็นอย่างดี โดยร่วมงานกับกลุ่มเซ็นทรัล ทั้ง เซ็นทรัลพัฒนา และ เซ็นทรัล รีเทล มาอย่างยาวนาน ย้อนหลังไประหว่างปี 2555 – 2561 เคยดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

 

ก่อนที่จะย้ายมาดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารทรัพย์สิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และล่าสุดมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ดูแลศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการบนเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'New Central New Retail' เซ็นทรัล รีเทล ได้พัฒนาเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และนำเสนอการค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย และได้ก้าวสู่การเป็น #1 Omnichannel Retailer เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และจุดประกายการค้าปลีกในรูปแบบใหม่ให้เท่าทันกับโลกอนาคต