รู้จักกับบัตรกดเงินสด ตัวช่วยบริหารเงินด่วนยามฉุกเฉิน บอกลาหนี้นอกระบบไปได้เลย!
พนักงานออฟฟิศที่กำลังขาดสภาพคล่อง เงินสดขาดมือไม่พอใช้ มักแก้ปัญหาด้วยการหาแหล่งเงินด่วนผ่านการสร้างหนี้นอกระบบ เพราะเข้าใจว่าสมัครง่ายกว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ถูกกฎหมาย เช่น บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต และยอมจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมากจนสุดท้ายไม่มีเงินเหลือเก็บ และไม่มีเงินพอใช้จ่าย
แต่ความจริงแล้วการเข้าถึงบริการเงินด่วนถูกกฎหมายไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่สมัครบัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสดของคนรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือพนักงานออฟฟิศรายได้น้อย เงินเดือนเริ่มต้นเพียง 12,000 บาท ก็สมัครได้ รับรองว่าทำบัตรกดเงินสดแล้วไม่ต้องง้อหนี้นอกระบบ จ่ายดอกเบี้ยมหาโหดอีกต่อไป!
บัตรกดเงินสด ตัวเลือกที่ดีกว่าการสร้างหนี้นอกระบบ
บัตรกดเงินสดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินถูกกฎหมาย มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินด่วนยามฉุกเฉินได้ โดยที่บัตรกดเงินสดเป็นสินเชื่อที่ไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันประกอบการสมัคร หมายความว่าแม้ไม่มีสินทรัพย์เป็นของตนเองอย่างบ้าน รถยนต์ ที่ดิน ก็สมัครบัตรกดเงินสดได้ เพียงแค่มีรายได้ คุณสมบัติ และยื่นเอกสารครบถ้วน
บัตรกดเงินสดดียังไง ใช้ทำอะไรได้บ้าง
บัตรกดเงินสดมีข้อดี ที่พนักงานออฟฟิศควรทราบดังต่อไปนี้
เบิก-ถอนเงินสดยามฉุกเฉิน
บัตรกดเงินสดเหมาะแก่การเบิกถอนเงินสดยามฉุกเฉินเท่านั้น เพราะถึงแม้ว่าบัตรกดเงินสดจะไม่เสียค่าธรรมเนียมก็จริง แต่ต้องเสียดอกเบี้ย 25% นับแต่วันที่เบิกถอนเงินสด ไปจนถึงวันชำระคืน ตัวอย่างเช่น
นาย B ใช้บัตรกดเงินสดเบิกเงินด่วนจากแอปพลิเคชัน จำนวน 5,000 บาท เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 จ่ายคืนวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 หมายความว่านาย B ต้องเสียดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดตามสูตรคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด ดังนี้
จำนวนวันใน 1 ปี
เมื่อแทนค่าเข้าไปจะได้ว่านาย B ต้องชำระดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดเท่ากับ
สามารถใช้ผ่อนสินค้าได้ 0%
ไม่ใช่แค่เบิกเงินสดยามฉุกเฉินได้เท่านั้น บัตรกดเงินสดยังสามารถใช้ซื้อของที่จำเป็นด้วยโปรโมชันผ่อนด้วยดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 24 เดือน นอกจากนี้บัตรกดเงินสดยังมาพร้อมกับโปรโมชันอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น บัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่ได้จัด*โปรโมชันเคลียร์หนี้ ปี 2567 ช่วยให้สมาชิกบัตรปิดหนี้ได้ไวกว่าเดิม
*ระยะเวลาโปรโมชัน1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67
เลือกใช้บัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิตดีกว่ากัน?
หากไม่เคยสมัครบัตรกดเงินสดมาก่อนเลย พนักงานออฟฟิศบางคนมักเข้าใจว่าบัตรเครดิต กับบัตรกดเงินสดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทเดียวกัน และใช้บัตรผิดวัตถุประสงค์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งความจริงแล้ว บัตรทั้ง 2 แบบมีการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้
1.การเบิกเงินสด
ถ้าต้องการเบิกเงินสดจากตู้ ATM หรือแอปพลิเคชันเพื่อจ่ายค่าอาหาร หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เราแนะนำให้สมัครบัตรกดเงินสด เนื่องจากบัตรกดเงินสดไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเบิกถอน ในขณะที่บัตรเครดิตต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% ของยอดกดเงินสด ทุกครั้ง และเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% อย่างไม่จำเป็นอีกด้วย
2.รูดซื้อของใช้จ่าย
สำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องการซื้อของใช้เพื่อให้การทำงานเป็นเรื่องง่าย แต่ซื้อด้วยเงินสดไม่ไหว ในกรณีนี้ก็ควรสมัครบัตรเครดิต เนื่องจากบัตรเครดิตมีจำนวนสินค้าเข้าร่วมรายการมากกว่าบัตรกดเงินสด และยังสามารถผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 10 เดือน
แต่ทั้งนี้บัตรกดเงินสดบางสถาบันการเงินอย่างบัตรกดเงินสด KTC PROUD มีสินค้าหลากหลายแบรนด์เข้าร่วมจำนวนมากไม่แพ้บัตรเครดิต ที่สำคัญยังสามารถผ่อนดอกเบี้ยต่ำ 0% นานสูงสุดถึง 24 เดือนอีกด้วย (อัตราดอกเบี้ย 0% เมื่อชำระยอดผ่อนตามที่เรียกเก็บรายเดือน ภายในวันครบกำหนดชำระ)
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
สูตรบริหารการใช้บัตรกดเงินสดให้หมุนเงินง่าย ไม่มีปัญหา
สูตรบริหารการใช้บัตรกดเงินสด ที่มนุษย์เงินเดือนควรทราบ เพื่อวางแผนการใช้จ่ายอย่าง Smart! ให้หมดปัญหาหนี้บัตรกดเงินสดมีดังนี้
1.จ่ายเงินคืนทันทีเมื่อเบิกเงินสด
ผู้ใช้บัตรกดเงินสด สามารถจ่ายเงินคืนได้ทันที หลังจากเบิกเงินสดออกมาแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องรอถึงวันสรุปยอดบัญชี ซึ่งยิ่งจ่ายเงินคืนเร็วเท่าไหร่ ดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น
2.หลีกเลี่ยงการชำระขั้นต่ำ
การชำระขั้นต่ำดูเหมือนทำให้ภาระผ่อนต่อเดือนไม่เยอะ แต่เงินต้นคงค้างยังเหลืออยู่จำนวนมาก ซึ่งยอดคงค้างที่เหลืออยู่ จะถูกนำไปคำนวณดอกเบี้ยในงวดถัดไป เมื่อรวมยอดคงค้างกับยอดใช้จ่ายเดือนล่าสุดเข้าด้วยกัน จะยิ่งเสียดอกเบี้ยมากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดควรหลีกเลี่ยงการชำระขั้นต่ำ
3.คิดก่อนใช้
ก่อนรูดซื้อของด้วยบัตรกดเงินสดทุกครั้งให้คิดเสมอว่าเป็นเงินของคุณในบัญชีธนาคารจริง ๆ หมายความว่าหากต้องการรูดซื้อของมูลค่า 10,000 บาท ให้มองว่าหลังจากรูดไปแล้วคุณจะหาเงิน 10,000 บาท มาชำระคืนได้ มิเช่นนั้นแล้วจะทำให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัว และชำระหนี้บัตรกดเงินสดคืนไม่ไหว
บัตรกดเงินสด KTC PROUD บัตรกดเงินสดของคนรุ่นใหม่ วางแผนการใช้จ่ายให้ดี ก็ช่วยให้หมุนเงินง่าย
บัตรกดเงินสดไม่ได้สมัครยากอย่างที่ทุกคนเข้าใจจนถึงขั้นต้องสร้างหนี้นอกระบบ เพียงแค่มีรายได้ขั้นต่ำต่อเดือนตามที่สถาบันการเงินแห่งนั้น ๆ กำหนด และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ก็ยื่นสมัครบัตรกดเงินสดได้
แต่ทั้งนี้เมื่อสมัครบัตรกดเงินสดผ่านแล้ว ก็ควรใช้บัตรกดเงินสดอย่างชาญฉลาด ด้วยการใช้บัตรกดเงินสดยามฉุกเฉินเท่านั้น เบิกเงินสดออกมาให้พอดีกับยอดที่ต้องการใช้จ่าย มิเช่นนั้นจะต้องเสียดอกเบี้ยไปโดยไม่จำเป็น และควรวางแผนก่อนรูดซื้อของด้วยบัตรกดเงินสดทุกครั้งด้วย
สำหรับพนักงานออฟฟิศคนไหนกำลังมองหาบัตรกดเงินสดของคนรุ่นใหม่ ไม่ควรพลาดกับบัตรกดเงินสด KTC PROUD ที่อนุมัติไวใน 30 นาที และไม่ต้องเดินทางไปทำเรื่องถึงสาขาให้เสียเวลา ซึ่งมาพร้อมกับช่องทางการสมัครที่หลากหลาย ได้แก่
1. KTC TOUCH ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. สมัครออนไลน์ด้วยตนเองในเว็บไซต์ KTC
3. แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT
4. ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ