"น้องทัท"ชญตว์ เธียรวร รับโล่รางวัล เด็กไทยคนเก่ง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

30 กันยายน 2567

น้องทัท-ชญตว์ เธียรวร เด็กไทยคนเก่ง นักเปียโน-โอโบ ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ได้รับการคัดเลือกให้เข้าเยี่ยมคารวะ รับโล่รางวัล และรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี เป็นปีที่สองติดต่อ


ด้วยความสำเร็จอันน่าทึ่งของเด็กไทย เด็กชาย ชญตว์ เธียรวร หรือ "น้องทัท" อายุ 11 ปี นักเรียนระดับชั้นประถม 6 โรงเรียนสถานศึกษานานาชาติ ISB (International School Bangkok ) บุตรชายคนเล็กของ ปริญญา เธียรวร และ ดร.อารียา อัศวานันท์ ได้ดึงดูดความสนใจของประชาชนอย่างมากมายอีกครั้ง

 

เมื่อน้องทัทได้รับเกียรติจากกระทรวงศึกษาธิการด้วยการได้รับคัดเลือกให้เป็น "เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ" และได้รับการคัดเลือกให้เข้าเยี่ยมคารวะ รับโล่รางวัล และรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่น้องทัทได้รับการยกย่องและคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ตามประกาศกระทรวงฯ


ซึ่งการพิจารณาคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการนั้น เป็นไปด้วยกระบวนการพิถีพิถัน ในการคัดเลือกพิจารณาผู้สมัครอย่างละเอียดจากทั่วประเทศ ประเมินคุณูปการ ความเป็นผู้นำ และความสำเร็จที่เกิดขึ้น การที่น้องทัทได้รับรางวัลนี้ สะท้อนถึงความทุ่มเทและความสามารถอันโดดเด่นของน้องทัท

\"น้องทัท\"ชญตว์ เธียรวร รับโล่รางวัล เด็กไทยคนเก่ง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

ใครจะรู้ว่า!! จากการที่น้องทัทสนิทกับพี่สาว (ปุณศิรา เธียรวร) มาก และชอบฟังพี่สาวเล่นเปียโนตั้งแต่เล็กๆ และชอบฟังเพลง Fly Me to the Moon ที่คุณพ่อเปิดในรถให้ฟัง

\"น้องทัท\"ชญตว์ เธียรวร รับโล่รางวัล เด็กไทยคนเก่ง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

จนกระทั่งคุณพ่อคุณแม่มาเห็นน้องทัทแกะโน้ตเพลง Fly Me to the Moon และดีดเปียโนเพลงนี้จากการแกะโน้ตเปียโนเอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่คุณพ่อคุณแม่ให้น้องทัทเริ่มเรียนเปียโน และทำให้วันนี้น้องทัทได้ก้าวขึ้นเป็นศิลปินตัวน้อยมากความสามารถด้านดนตรี และได้รังสรรค์ผลงาน สร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับนานาชาติไม่หยุดยั้งอย่างน่าชื่นชม

 

สำหรับ ด.ช.ชญตว์ เธียรวร (น้องทัท) เด็กไทยคนเก่งซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติประจำปี พ.ศ. 2567 นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ หลังจากได้รับการคัดเลือกเป็นเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติประจำปี พ.ศ. 2566 ในปีที่แล้ว

“น้องทัท”ด.ช.ชญตว์ เธียรวร เป็นเด็กเก่งเกินวัย ที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีในระดับแถวหน้าของประเทศไทย การันตีด้วยผลงานรางวัลมากมาย น้องทัทย้อนถึงจุดเริ่มต้น โดยเล่าให้ฟังว่า

“เริ่มจากการที่คุณพ่อคุณแม่เปิดกว้าง ให้ทัทได้ลองเล่นเครื่องดนตรีหลายอย่างตั้งแต่เล็กๆ ทั้ง ตีกลอง กีตาร์ ไวโอลิน วิโอลา โอโบ แต่สุดท้ายน้องทัทเลือกเล่นเปียโน และโอโบ น้องทัทชอบเสียงเปียโน เพราะเปียโนมีเสียงตั้งแต่เสียงต่ำสุดถึงเสียงสูงสุดครบในตัวเอง เวลาเล่นแล้วมันส์ดี ส่วนโอโบทัทก็ชอบ ทัทรู้จักโอโบเพราะทัทเสริช์ยูทิวบ์หาเพลงเปียโนที่ทัทชอบ แล้ววีดีโอนักดนตรีกำลังเล่นโอโบเพลง แกเบรียลส์ โอโบ ( Gabriel’s Oboe) ขึ้นมาพอดี ทัทฟังแล้วชอบมากๆ เสียงโอโบมันหวานซึ้งมากๆ

 

ทัทขอแม่เริ่มเรียนโอโบตั้งแต่นั้นมา นอกจากจะเล่นใน Symphonic Band ที่โรงเรียน ISB คุณครูก็ชวนให้ไปเล่นกับ Band อื่นๆ ที่ศูนย์วัฒนธรรมไทยญี่ปุ่นบ้าง เล่นในวง orchestra กับคุณครูและนักดนตรีมืออาชีพที่หอประชุมมหาวิทยาลัยบ้าง ทัทสนุกมากๆ เพราะทัทได้รู้จักเพื่อนๆ รุ่นพี่เพิ่มขึ้นมากมาย ที่รู้จักแต่รุ่นพี่ เพราะทัทเป็นนักดนตรีโอโบที่เด็กที่สุดในวงที่เล่นนอกโรงเรียน

\"น้องทัท\"ชญตว์ เธียรวร รับโล่รางวัล เด็กไทยคนเก่ง สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

หากถามถึง ผลงานของศิลปินจิ๋วแต่แจ๋วคนนี้ ต้องบอกว่าเยอะมากทั้งผลงานในประเทศไทยและระดับนานาชาติ แต่ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับน้องทัทและครอบครัวมากที่สุด คือ การได้รับเชิญให้ไปแสดงที่ The Kleine Zaal, Concertgebouw Concert Hall ในอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ Solitar, Mozarteum Concert Hall ในเมืองซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรียใน ปี พ.ศ. 2565 และที่คาร์เนกี้ฮอลล์ เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2565 และ 2566 น้องทัทบอกว่า “ประทับใจ เพราะเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ และเป็นครั้งแรกๆที่ทัทได้ไปเล่นในต่างประเทศในฮอลล์ใหญ่ มีคนดูมากมาย ทัทรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ที่ดีใจที่สุด คือในการแสดงบนเวทีใหญ่ทั้ง 4 รอบนี้ ทัทมีสมาธิดี เล่นไม่ผิดคีย์ไม่ผิดจังหวะทั้งเพลงเลย ทัทภูมิใจมาก คุณพ่อคุณแม่ของทัทจะบอกทัทเสมอว่า แม้จะเล่นผิด ก็ไม่เป็นอะไร ขอแค่ทัทได้พยายามและตั้งใจทำให้ดีที่สุดในทุกการแสดงก็เยี่ยมที่สุดแล้ว"

ความสำเร็จของน้องทัท ทั้งการแข่งขันและการแสดงดนตรี ทั้งเล่นเปียโนและโอโบ เกิดจากพรแสวงที่น้องทัทหมั่นเรียนรู้ และพัฒนาทักษะของตนเองตลอดเวลา จนกลายเป็นพรสวรรค์ติดตัว จนสามารถชนะการแข่งขัน และได้รับเชิญไปโชว์ความสามารถบ่อยครั้ง และได้สร้างผลงานและรับโล่รางวัลมากมาย อาทิเช่น

 

รางวัลที่สร้างชื่อเสียงให้น้องทัทจากการเล่นโอโบ ได้แก่ ผู้ชนะรางวัลเหรียญทองในงาน World Classical Music Awards 2023 ซีซั่น 3 , ผู้ชนะรางวัลที่หนึ่ง การแข่งขันดนตรีนานาชาติ Bach 2023 (ฤดูกาลที่ 3) , รางวัลเหรียญทอง ในงาน London Young Musician 2023-2024 ซีซั่น 2 , ถ้วยรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งในการแข่งขัน Bangkok International Youth Music Competition 2023, ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ King's Peak International Music Competition 2023 (รอบฤดูใบไม้ร่วง), ชนะรางวัลเหรียญทองในงาน the 21St Century Prominent Musicians Award 2023, ชนะได้รางวัลเหรียญทองในการแข่งขัน the European Summer Music Competition 2023 และได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ในการแข่งขัน the 2023 International Music Competition "Bonn" Grand Prize Virtuoso และได้รับเชิญให้ไปแสดงที่ the Beethoven House ที่เมืองบอนน์ ประเทศเยอรมัน เป็นต้น

 

“2022 “Salzburg” Grand Prize Virtuoso ,ผู้ชนะรางวัลที่หนึ่ง ในการแข่งขันดนตรีนานาชาติ 2022 “อัมสเตอร์ดัม” Grand Prize Virtuoso, ผู้ชนะรางวัลที่หนึ่ง” การแข่งขันระดับนานาชาติ Golden Classical Music Awards ประจำปี 2022, ชนะรางวัลเหรียญทองในงาน the 2022 Quebec Music International Competition, ชนะรางวัลที่หนึ่ง การแข่งขันดนตรีนานาชาติ Vivaldi ปี 2022 (ฤดูกาลที่ 2), ชนะรางวัลแพลตตินัม การแข่งขันดนตรี 2022 Global International Music Competition, ชนะรางวัลที่หนึ่ง การแข่งขันดนตรีนานาชาติ Tiziano Rosetti 2022,

 

ชนะรางวัลเหรียญทอง การแข่งขันดนตรีนานาชาติ Appassionato Quebec Youth Music Festival 2022, , ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ King's Peak International Music Competition 2022 (รอบฤดูใบไม้ร่วง), ได้รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ในการแข่งขัน the 2022 International Music Competition "Paris" Grand Prize Virtuoso, ชนะรางวัลเหรียญทองในงาน the European Classical Music Pianist Award 2022 และ ชนะรางวัลเหรียญทองในงาน the European Autumn Music Competition 2022 และได้รับเชิญให้ไปแสดงทั้งในยุโรป และอเมริกา อาทิเช่น ที่ เมืองซาลซ์บวร์ก ประเทศออสเตรีย, เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์, คาร์เนกี้ฮอลล์ เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น

รางวัลและความสำเร็จที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งเล็กๆจากผลงานของน้องทัททั้งหมดที่เห็นจากถ้วยรางวัลและประกาศนียบัตรมากมายที่น้องทัทชนะการแข่งขันมาทั้งในระดับนานาชาติ และในประเทศไทย น้องทัทบอกว่า เคล็ดลับความสำเร็จมาจากความขยันหมั่นเพียรในการฝึกซ้อมดนตรีเกือบทุกวันหลังเลิกเรียน น้องทัทรู้สึกสนุก มีความสุขทุกครั้งเมื่อถึงเวลาซ้อมดนตรี

สุดท้ายนี้ หากถามถึงไอดอลให้เดินตาม สำหรับน้องทัทแล้ว หากเป็นด้านดนตรี เปียโนและโอโบ น้องทัทบอกทันทีว่าไอดอลของน้องทัท คือคุณครูที่สอนน้องทัทนั้นเอง น้องทัทบอกว่าคุณครูของทัทเก่งที่สุดและสอนสนุกด้วย ส่วนไอดอลที่ให้เลือกเดินตามฝันในอนาคต จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก “คุณพ่อปริญญา เธียรวร” นักธุรกิจแถวหน้าและนักลงทุนรายใหญ่ของเมืองไทย

น้องทัทกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า

“ความฝันอันสูงสุดของทัท ทัทอยากเป็นนักธุรกิจ ทัทอยากสร้างธุรกิจเองและอยากเป็นนักลงทุนเหมือนคุณพ่อ และที่ทัทชอบเล่นดนตรี เป็นเพราะดนตรีทำให้ทัทมีความสุข เพลิดเพลิน และเป็นการพัฒนาทักษะหลายด้านของทัทครับ”

ส่วนเคล็ดลับความสำเร็จนั้น น้องทัทฝากถึงทุกคนว่า “หากเพื่อนๆอยากเล่นดนตรีเก่ง ขอให้หมั่นฝึกซ้อมให้สม่ำเสมอ แล้วฝีมือเราจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เอง ส่วนตัวเองนั้น น้องทัทบอกว่า "ทัทคิดว่าทัทยังต้องพัฒนาเรื่องการอ่านโน้ตดนตรีอีก ที่ผ่านมาทัทอาศัยใช้ความจำ ใช้หูฟัง และใส่ความตั้งใจลงไปให้สุด วันนี้ทัทรู้สึกดีใจเพื่อนๆและคุณครูที่โรงเรียนชมว่าทัทเล่นเปียโนและโอโบเก่ง และคุณครูให้ทัทขึ้นไปเล่นโอโบอยู่ Symphonic Band ทั้งๆที่ทัทยังอยู่ประถม 6 ทัทภูมิใจมากครับ” น้องทัท กล่าวทิ้งท้าย