เรื่อง “รักแรกเกลียด” และ “สาวน้อยหน้างอ” กลายเป็นเรื่องที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงนำมาล้อ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ตลอดว่า “เดินตุปัดตุเป๋ หน้างอ คอยถอนสายบัว” ในขณะที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงตอบแก้ว่า “ที่หน้างอ เพราะให้แต่ผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะเสวย เด็กกลับไล่ไปกินที่อื่น” ปี 2521 ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานสัมภาษณ์ ในภาพยนตร์สารคดี เรื่อง “ขวัญของชาติ” ออกเผยแพร่ ทางสถานีโทรทัศน์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชทานสัมภาษณ์ถึง รักแรกพบ มีความตอนหนึ่งว่า
เรื่อง “รักแรกเกลียด” และ “สาวน้อยหน้างอ” กลายเป็นเรื่องที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงนำมาล้อ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ตลอดว่า “เดินตุปัดตุเป๋ หน้างอ คอยถอนสายบัว” ในขณะที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงตอบแก้ว่า “ที่หน้างอ เพราะให้แต่ผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะเสวย เด็กกลับไล่ไปกินที่อื่น”
ปี 2521 ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานสัมภาษณ์ ในภาพยนตร์สารคดี เรื่อง “ขวัญของชาติ” ออกเผยแพร่ ทางสถานีโทรทัศน์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชทานสัมภาษณ์ถึง รักแรกพบ มีความตอนหนึ่งว่า
สำหรับข้าพเจ้า เป็นการ เกลียดแรกพบมากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รับสั่งว่า จะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงแล้ว เสด็จมาถึง 1 ทุ่ม ช้ากว่านัดหมาย ตั้ง 3 ชั่วโมง ทรงทำให้ข้าพเจ้า ต้องซ้อมถอนสายบัว อยู่จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการเกลียด เมื่อแรกพบ มากกว่า รักเมื่อแรกพบ
ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนว่า พระองค์ท่าน ทรงรักข้าพเจ้า เพราะเวลานั้น อายุเพิ่งย่าง 15 ปี ตั้งใจไว้ว่า จะเป็นนักเปียโน เป็นนักเปียโนที่ แสดงในงานคอนเสิร์ต ตอนพระองค์ท่าน ประทับที่โรงพยาบาล หลังประสบอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ มีพระอาการหนักมาก ตำรวจเขาโทรศัพท์ ไปกราบบังคมทูล สมเด็จพระราชชนนี
ในระหว่างที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ท่านทรงประชวร ทางคณะผู้แทนรัฐบาลก็ได้ไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อเยี่ยมพระอาการ เมื่อพระองค์ท่านทรงทราบว่าในคณะที่มา มีหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ท่านก็ได้ทรงมีกระแสรับสั่งให้หม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ เข้าเฝ้าฯเป็นการพิเศษโดยเฉพาะ
พระองค์ท่าน รีบเสด็จไปทันที แต่แทนที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะมี พระราชปฏิสันถาร กับ พระองค์ ท่านกลับทรง หยิบรูปข้าพเจ้า ออกมาจากกระเป๋า โดยที่ข้าพเจ้า ไม่เคยทราบ มาก่อนเลยว่า พระองค์ทรง มีรูปของข้าพเจ้าอยู่แล้ว พระองค์ก็ตรัส ให้นำ ตัวข้าพเจ้าเข้าเฝ้า พระองค์ก็ได้มีพระราชกระแสรับสั่งว่า “พระองค์ได้ทรงรักหม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ กิติยากร อย่างแน่นอน” เหตุผลเพราะว่า “เมื่อทรงฟื้นคืนพระสติครั้งแรกนั้น ก็ทรงระลึกถึงบุคลเพียงสองคนคือ สมเด็จพระราชชนนี และ หม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์” ซึ่งแสดงถึงความจริงที่สถิตอยู่ในพระราชหฤทัย
ตอนนั้น ข้าพเจ้า คิดถึงแต่เรื่องที่ จะอยู่กับคนที่ ข้าพเจ้ารักเท่านั้น ไม่ได้นึกไปไกลถึง หน้าที่ และ ภารกิจ ของพระราชินีเลย ฯลฯ
อ้างอิงจาก …..