จากกรณีกระแสการกิน "หมึกซ็อต" ที่กำลังฮิตอยู่ในโลกออนไลน์กลายเป็นไวรัลติ๊กต๊อกอยู่ในขณะนี้ ทำให้หลายคนต่างอยากลองว่ารสชาติมันเป็นเช่นไร จนร้านอาหารทะเลหลายแห่งต่างต้องมีเมนู"หมึกซ็อต"เข้ามาดึงดูดลูกค้าด้วย
ข่าวล่าสุด นายแพทย์ สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากมีกระแสในการกินหมึกช็อต คือ การนำหมึกตัวเล็ก สดๆ เอาหัวจุ่มลงไปในแก้วที่บรรจุน้ำจิ้ม เพื่อให้หมึกดูดเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้าตัว จากนั้นกินหมึกโดยกัดส่วนหัว แล้วค่อยกัดหรือหั่นส่วนลำตัวกินต่อ หรือหากหมึกตัวเล็กพอ ก็อาจจะเอาเข้าปากกินทั้งตัวนั้น
พฤติกรรมการกิน "หมึกช็อต" ดังกล่าว อาจจะเสี่ยงได้รับเชื้ออหิวาต์เทียม หรือ Vibrio parahaemolyticus ที่เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ตามโคลนตมในทะเลหรือตามชายฝั่งต่างๆ เมื่อกินสัตว์ทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย มีอาการอาหารเป็นพิษ หากรุนแรงมากๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย
-หมอเตือนแล้ว "เมนูไวรัลยอดฮิต" หมึกช็อต จุ่มน้ำจิ้มซีฟู๊ด ระวังอาจติดเชื้อ
-สุดประทับใจ คุณตาวัย 86 "ซื้อทอง" ให้คุณยายวัย 82 ทำอมยิ้มกันทั้งโซเชียล!
-"พลอย ภัทรากร" เคลื่อนไหวแล้ว เมื่อความจริงปรากฎ ลั่นความจริงชนะเสมอ!
นอกจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว หมึกหรือสัตว์ทะเลอื่นๆ เช่น กุ้ง หรือ หอย ก็อาจจะมีพยาธิอาศัยอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวกลม ในกลุ่มพยาธิอะนิซาคิส (Anisakis spp.) พยาธิตัวตืดในกลุ่มพยาธิตืดปลา (Diphyllobothrium) เป็นพยาธิที่พบในปลาทะเลเขตอบอุ่น และเขตร้อน ซึ่งในประเทศไทยตรวจพบตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ในปลามากกว่า 20 ชนิด ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับพยาธิ มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด คล้ายกับอาการของโรคกระเพาะอาหาร บางรายอาจมีอาการท้องเสีย หรือถ้ามีแผลในกระเพาะขนาดใหญ่ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด รวมถึงอาจทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายอื่น ๆ เช่น เข้าไปอาศัยตามกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผื่นคัน ปวดบวมบริเวณผิวหนัง หรือเข้าไปชอนไชทำลายอวัยวะภายใน ทำให้เลือดออกในช่องท้อง หรือเนื้อเยื่อ หรือในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น คือ การไชเข้าสมองก่อให้เกิดอาการเลือดออกในสมอง สมองอักเสบ และส่งผลเสียกับร่างกายในระยะยาวได้