จากกรณีข่าวดังสะเทือนวงการ เมื่อพนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ยื่นฟ้องนายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช หรือชื่อเดิม สรายุทธ ไชยเดช พี่ชาย พิงกี้ สาวิกา และมารดา กับพวกรวม 19 คน คดีแชร์ Forex-3D โดยมีผู้เสียหายจำนวน 9,824 คน และมีความเสียหายรวม 2,489,820,321.52 บาท ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี และถูกคุมตัวเข้าเรือนจำนั้น
ล่าสุดทางด้าน "ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต" ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยถึงรูปคดีของ พิงกี้ สาวิกา ว่ามีสิทธิ์สู้คดีมากน้อยเพียงใด หลังถูกคุมตัวเข้าเรืองจำพร้อมมารดาในคดีแชร์ Forex-3D ทันทีแม้จะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวแล้วก็ตาม โดนทนายเจมส์กล่าวว่า ตามที่ดูข่าวพิ้งค์กี้ โดน 2 ข้อหา คือ
1. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
2. กระทำความผิดโดยทุจริต ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งถ้ามีความผิดจริง มีการพิจารณาแบบเรียงกระทงความผิด ใครโอนเงินเท่าไร ก็เป็น 1 กระทงอย่างนี้ ความผิดอาจจะถึงขั้นโทษจำคุก 1 พันปี ก็เป็นได้ แต่เพดานโทษ มันมีกำหนดไว้สูงสุดไม่เกิน 10 หรือ 20 ปี ตัวอย่างเช่น กรณีซินแสที่เคยฉ้อโกงประชาชนเจอโทษเป็น พันปี แต่ก็เจอโทษจริงแค่ 10 ปีเท่านั้น และถ้าอยู่ระหว่างถูกจำคุกมีการจัดชั้นนักโทษ และมีการอภัยโทษ ก็มีสิทธิได้รับการอภัยโทษได้
ในกรณีคดีของพิ้งค์กี้ถามว่าพิพากษาจะสิ้นสุดเมื่อไร แบ่งเป็น 2 อย่าง หากจำเลย ถูกคุมขังอยู่ ศาลก็จะดำเนินการโดยเร็ว ไม่สามารถปล่อยคดียืดเยื้อได้ ใช้เวลา 1-2 ปี ก็จะได้รับคำพิพากษา แต่ถ้าไม่ คดีก็จะยืดยาวไปอีก คดีนี้ ทนายเจมส์มองว่าพิ้งค์กี้อาจจะไม่ได้ถูกดำเนินคดีแค่ 2 ข้อหา อาจจะโดนเพิ่มอีก 1 คดี คือ คดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน หากได้รับเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับการจากการฉ้อโกงประชาชาน ก็อาจจะเจอข้อหานี้เพิ่มเติมด้วย แต่ต้องมาดูหลักฐานว่า มีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่าสำหรับการเป็นคนดังที่ทำให้ประชาชนหลงเชื่อให้ร่วมลงทุนนั้น ไม่น่าเกี่ยวกับการทำให้คดีถูกเพิ่มโทษ เพราะคนดังเหล่านี้ก็อาจตกเป็นเครื่องมือของผู้กระทำความผิดก็ได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews