กลายเป็นคดีฃที่สังคมไทยกำลังจับตามองอย่างมากในขณะนี้ จากกรณีที่ ตำรวจหญิงทารุณทหารรับใช้หญิงด้วยวิธีการสุดโหดจนเหยื่อทนไม่ไหวหอบหลักฐานเข้าแจ้งความ โดยตำรวจหญิงอ้างว่าตนเป็นเมีย สว. คนดังรายหนึ่ง กระทั่ง "ตำรวจหญิง" ทำร้ายทหารรับใช้ ได้มามอบตัวแล้ว พร้อมทั้งงัดใบรับรองแพทย์ร่ำไห้อ้างป่วยป่วยจิตเภท
ล่าสุดด้าน บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิ บัวแย้ม หรือ เจ๊นุช ทำร้ายร่างกาย ส.ต.(หญิง) ทหารรับใช้ ในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์ ยืนยันว่า เจ๊นุช เปิดหมดเปลือกว่ามีผู้ใหญ่ท่านไหนอยู่เบื้องหลังบ้าง พร้อมยอมรับช่วยเหลือผู้เสียหายไปเป็นทหารจริงและนำไปเป็นคนรับใช้ เนื่องจากอยู่กันมานาน
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอายุเกินเกณฑ์เข้ารับราชการตำรวจ เจ้าตัวยอมรับว่ามีผู้ใหญ่พาไปฝากกับผู้ใหญ่อีกทีเช่นเดียวกับการมีชื่อไปช่วยราชการภาคใต้ แต่ไม่ได้บอกว่าผู้ใหญ่ท่านดังกล่าวเป็นส.ว.หรือไม่ ทั้งนี้ในปัจจุบันยังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานส.ว.แต่ยังไม่เห็นเอกสารยืนยันใดๆ
นอกจากนี้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ผบ.ตร.กำชับให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและโปร่งใส รวดเร็ว ขณะนี้แจ้งข้อหาความผิดฐานค้ามนุษย์ มีโทษจำคุก 8 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต ยืนยันว่าไม่มีการใช้อิทธิพลใดๆ เข้ามาช่วยคดีนี้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน กรณีที่ผู้ต้องหาโชว์ใบแพทย์ว่าป่วยจิตเภทนั้น ยังไม่มีการยืนยันจากหมอจิตเวชว่าป่วยจริงหรือไม่ ซึ่งคาดว่าไม่ได้ป่วยเป็นโรคจิต ทั้งนี้จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปพบจิตแพทย์ก่อนนำตัวส่งเรือนจำต่อไป แต่ถึงแม้จะป่วยจริงก็ต้องรับโทษขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล โดยคาดว่าในวันศุกร์นี้จะแถลงความคืบหน้าคดีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ด้าน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันว่า เจ๊นุช มาช่วยราชการจริงไม่ได้แค่เอาชื่อไปใส่ แต่รู้สึกว่าช่วงนี้เขาพักอยู่ พร้อมเตรียมตั้งกรรมการสอบ หากเป็นจริงตามข่าวจะให้พ้นหน้าที่ ส่งกลับต้นสังกัด รวมถึงการลงทัณฑ์ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยต้นสังกัด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews