จากประเด็นร้อนแรง กรกณี ปมข่าว "ส.ต.ท.หญิง" ซ้อมทหารรับใช้จนกลายเป็นคดีความที่สังคมจับตามอง เบื้องต้น ส.ต.ท.หญิง เจ้าตัวยอมรับว่าทำไปเพราะป่วย อีกทั้งยังมีเรื่องชวนสงสัยอีกสารพัด เช่น การเข้ารับราชการตำรวจทั้งที่อายุเกิน 35 ปี ทำไมถึงสามารถทำได้ ทางหน่วยงานชี้แจงว่า กำลังขาดแคลนบุคลากรด้านบัญชีพอดี จึงต้องรับเข้าเป็นกรณีพิเศษ
ล่าสุด นายธีรัจชัย พันธุมาศ , นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าและเอกสารเรียกกรณีฝาก ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ เจ๊นุช และ ส.ต.หญิง ปัทมา ศิริรัตน์ ให้ไปประจำ กอรมน ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมเรียกเอกสารเพิ่มเติม เนื่องจากในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการเสนอกรณี ส.ต.ท.หญิง เข้ารับราชการโดยมิชอบและมีข้อสงสัยว่าไม่ได้ปฏิบัติราชการจริง หรือที่เรียกว่า “บัญชีทหารผี” เข้ามาพิจารณาในกรรมาธิการ ป.ป.ช. โดยประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้มอบหมายให้ธีรัจชัย เป็นผู้รับผิดชอบดูแลติดตามกรณีนี้โดยเฉพาะ
โดย นายธีรัจชัย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากกระแสสังคมพบว่า มีกรณีฝากเข้าราชการแลกกับการเป็นทำงานเป็นคนรับใช้ จนเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย และมีการกล่าวอ้างว่าเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และเกี่ยวข้องกับนายพลทั้งทหารและตำรวจ
ต่อมาพบว่าปรากฏชื่อของ ส.ว. และ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ที่วัดแห่งหนึ่ง ซึ่งชื่อนั้นตรงกับผู้ดำรงตำแหน่ง อดีต สนช. และเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สนช. ที่เกี่ยวข้องกับคดีกับ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง จนต่อมามีคำสั่งแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะกรรมาธิการฯ ลงชื่อโดย พลเรือเอก ศิษฐวัชร์ วงษ์สุวรรณ
ต่อมา นายธีรัจชัย เริ่มแถลงถึงกรณีบุคคลที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องที่เราจะเรียกเข้าชี้แจง และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 2 ประเด็น ได้แก่
1. กระบวนการรับบุคคลเข้ารับราชการตำรวจนั้น เป็นไปโดยชอบหรือไม่ เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการยกเว้นเกณฑ์การบรรจุแต่งตั้งที่จะต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปี โดย สตช. อ้างว่าวุฒิ ปวส. ด้านบัญชีของเธอเป็น “คุณวุฒิที่ขาดแคลน”
2. การปฏิบัติหน้าที่ราชการ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งช่วยราชการใน กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จริงหรือไม่ เพราะจากข้อมูลที่เปิดเผยออกมา มีการให้การจากผู้เสียหายในคดีทำร้ายร่างกายว่า ส.ต.ท. ท่านนี้พักอาศัยอยู่ที่ราชบุรีตลอด ไม่ได้ไปปฏิบัติราชการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จริง ในขณะที่ยังมีชื่อช่วยราชการและได้สิทธิต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยเลี้ยง เบี้ยเสี่ยงภัย อายุราชการที่ทวีคูณ
โดยข้อสงสัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่สังคมตั้งข้อสงสัย เพราะในงบประมาณดับไฟใต้ของ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า 1,448 ล้านบาท และในเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่า 50,000 คน มีสิ่งที่เราเรียกว่า “บัญชีผี” หรือตัวบุคคลที่ไม่ได้ปฏิบัติราชการจริง แต่มีชื่อรับราชการ รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อยู่หรือไม่ และจากกรณีนี้ทำให้เราตั้งข้อสงสัยว่าสมาชิกวุฒิสภา ที่หลายท่านมีผู้ช่วย ผู้ประสานงานเป็นตำรวจ-ทหาร จะรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับข้อสงสัย “บัญชีผี” เหล่านี้หรือไม่
เพื่อให้ความกระจ่างแก่สังคม กรรมาธิการ ปปช. ได้มีมติเชิญ “บุคคล” อีกหลายรายเข้ามาให้ข้อมูล และชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ ประเด็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยธีรัจชัยตั้งคำถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเกี่ยวข้องกับระบบอุปถัมภ์ขนาดใหญ่หรือไม่
โดยเฉพาะ 3 รายชื่อที่เป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่
1. นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา
2. พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
3. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ด้าน รังสิมันต์ โรม กล่าวว่าตนในฐานะที่เป็นผู้ติดตามเรื่องตั๋วช้าง ระบบอุปถัมภ์ ระบบเส้นสาย หลังจากที่เจอปัญหาเราแทบไม่เห็นความคืบหน้าอย่างจริงจังเลย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องบัญชีผีที่เกิดขึ้น เราจะแก้ปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำได้อย่างไร
ทั้งหมดนี้คือความพยายามของเรา พรรคก้าวไกลในการตรวจสอบขบวนการ “บัญชีผี” ที่นำเด็กเส้น เด็กฝาก ของข้าราชการที่ใกล้ชิด คสช. เข้ารับราชการกินเงินภาษีประชาชน เป็นปัญหาที่กัดกินระบบราชการไทยมาอย่างยาวนาน
"ถ้าท่านคิดว่า “เด็กฝาก” ระดับ ส.ต.ท.หญิงเป็นปัญหา ผมอยากให้ท่านอย่าลืม 'เด็กฝาก' กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือ ส.ว. 250 คนที่ คสช. แต่งตั้ง ทิ้งไว้เป็นกาฝากกับประเทศไทย 5 ปี นั่นเอง ถ้าเอาเด็กฝากกลุ่มนี้ออกไปไม่ได้ เด็กฝากอื่นๆ ในทุกๆ หน่วยงาน ก็ยากจะถอนออกเช่นกัน"
cr.พรรคก้าวไกล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tnews