"หมอยง" ตอบแล้ว วัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น จำเป็นต้องฉีดหรือไม่

02 กันยายน 2565

"หมอยง ภู่วรวรรณ" ตอบแล้ว วัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น จำเป็นต้องฉีดหรือไม่ เผยวัคซีนเปรียบเสมือนสร้างหน่วยป้องกัน ที่เป็นทหารด่านหน้า

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Yong Poovorawan เกี่ยวกับข้อมูล การฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น

หมอยง ตอบแล้ว วัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น จำเป็นต้องฉีดหรือไม่

 

วัคซีน covid 19 จำเป็นที่จะต้องมีการกระตุ้น

การฉีดวัคซีนป้องกัน covid 19 เปรียบเสมือนสร้างหน่วยป้องกัน ที่เป็นทหารด่านหน้า หรือลาดตระเวน และทหารที่ประจำการอยู่ในบ้าน ในเมือง

โดยหลักการแต่เดิมถ้าวัคซีนสามารถฝึกทหารด้านหน้า หรือลาดตระเวนได้ดี ข้าศึกหรือตัวไวรัสก็ไม่สามารถที่จะโจมตีบ้านหรือเมืองเราได้ แต่วัคซีน covid 19 หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ทั้งนี้เพราะไวรัสโควิด- 19 สามารถเปลี่ยนรูปร่าง ปลอมปนทำให้ทหาร ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นข้าศึก จึงทำให้ไวรัสเข้าจู่โจมบ้านเมืองเราได้ การฉีดวัคซีนไม่ว่ากี่เข็ม จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้

 

แต่วัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ สามารถฝึกทหารในเมือง หรือในบ้านเรา ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถึงแม้ว่าไวรัสหรือข้าศึกจะเข้าบ้านเราได้ เราก็สามารถกำจัดกวาดล้างได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันไม่ให้เกิดการทำลายบ้านเมือง เปรียบเสมือน การติดเชื้อ เชื้อไม่ลงปอด ความรุนแรงน้อยลง ลดอัตราการนอนโรงพยาบาลจากการเสียหายของร่างกาย ลดอัตราการเสียชีวิต

วัคซีน จึงลดความรุนแรงของโรคได้

การให้วัคซีนจึงจำเป็นต้องมีการกระตุ้น หรือฝึกทหารให้แข็งแกร่ง ในการที่จะปกป้อง อันตรายที่จะเกิดขึ้น และถ้าให้มานานแล้ว จำเป็นที่จะต้องมีการฝึกเป็นระยะ

จึงไม่แปลกที่กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะที่เราเรียกว่า 608 จำเป็นจะต้องมีการกระตุ้นเข็ม 4 เพื่อลดความรุนแรงของโรคลง จะได้ลดอัตราการสูญเสียต่อชีวิตลงได้

ในรายที่ร่างกายอ่อนแอมาก ให้วัคซีนก็ไม่สามารถกระตุ้นภูมิต้านทานได้ ดังนั้นในบุคคลกลุ่มนี้จึงจำเป็นที่จะต้องให้ ภูมิต้านทานสำเร็จรูป ที่ใช้ในการป้องกัน เช่นผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ที่กินยากดภูมิต้านทาน ก็สามารถให้ภูมิต้านทานสำเร็จรูป ในการป้องกันระยะยาวได้ซึ่งขณะนี้ก็มีใช้ในเมืองไทยแล้ว

หมอยง ตอบแล้ว วัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น จำเป็นต้องฉีดหรือไม่

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews