ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่นได้รับการร้องเรียนจากประชาชนชุมชนท่าทราย และ น.ส.สุจิตรา ไหมพรม อายุ 52 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนสมานพิชากร ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่าขณะนี้ทางโรงเรียนได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู เพราะทรายจากการก่อสร้างไหลลงไปอุดตันท่อระบายน้ำของชุมชน เมื่อฝนตกหนักก็ไม่สามารถระบายได้ทันทีเหมือนที่ผ่านมา ทำให้โรงเรียนถูกน้ำท่วมขังระดับ 30 เซนติเมตร โดยเฉพาะห้องเรียนชั้นอนุบาลที่อยู่ด้านล่างกับห้องพักครู ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ทั้งยังมีบ้านเรือนประชาชนในชุมชนอีกประมาณ 200 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำที่ท่วมขัง
ผู้อำนวยการโรงเรียนสมานพิชากร กล่าวด้วยว่า โรงเรียนถูกน้ำท่วมขังเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ตอนนี้น้ำไหลเข้าท่วมภายในห้องเรียน ทำให้อุปกรณ์การเรียนและพื้นห้องเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมดเกือบทุกห้อง รวมทั้งห้องพักครู ซึ่งทางโรงเรียนประสบปัญหาแบบนี้ครั้งหนึ่งเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา จนต้องปิดเรียนไป 1 วัน เพื่อช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน หนนี้เป็นรอบที่ 2 แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางโรงเรียนไม่เคยประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังมาก่อนเลย เพราะอยู่ห่างจากคลองระบายน้ำบางตลาดเพียง 300 เมตร กระทั่งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูเริ่มก่อสร้างสถานีขึ้นลงบริเวณปากซอยติวานนท์ 45 จึงเริ่มมีปัญหาน้ำท่วมขังตามมา
อาจารย์สุจิตรา กล่าวอีกว่า ตอนแรกตนเองไม่ทราบว่าเพราะสาเหตุใดที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง จึงแจ้งไปยังเทศบาลนครนนทบุรีให้ช่วยเข้ามาแก้ไข ทางเทศบาลทราบจึงส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ กระทั่งพบว่าการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าจุดดังกล่าว มีการกั้นท่อไม่ให้น้ำไหลผ่าน มีทรายเข้าไปอุดตันอยู่ในท่อระบายน้ำจำนวนมาก ทำให้เมื่อเกิดฝนตกลงมา น้ำฝนไม่สามารถระบายออกไปได้ จึงไหลย้อนขึ้นมาจากท่อเข้าท่วมโรงเรียน ทำให้ทางโรงเรียนต้องตัดสินใจแจ้งผู้ปกครองขอปิดการเรียนการสอน 2-3 วัน จนกว่าน้ำจะแห้งและกลับมาทำความสะอาดได้
รวมทั้งต้องจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นผลจากการทำงานที่ละเลย ไม่ใส่ใจกับงานก่อสร้างให้ดี จนส่งผลกระทบให้เด็กต้องหยุดเรียน ผู้ปกครองต้องมาดูแลบุตรหลานแทน รวมถึงชาวบ้านในชุมชนก็ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งตนเองยังเป็นห่วงว่า หากมีฝนตกลงมาเพิ่มอีก ระดับน้ำที่ท่วมขังจะสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนมากไปกว่านี้
ด้าน นายวุฒิชัย มะสี อายุ 62 สท.นครนนทบุรี กล่าวว่า หลังทราบว่าเกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนและโรงเรียน ได้ลงพื้นที่สำรวจ พบว่าหลังโรงเรียนยังมีบ้านเรือนประชาชนเสียหายอีกประมาณ 10 หลัง นอกจากนี้ในซอยติวานนท์ 43 หมู่บ้านแสงอรุณก็ถูกน้ำเข้าท่วมเกือบทุกซอย โดยมีสาเหตุจากการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่ขุดฝังเข็มลงไปใต้ดินจนทำให้ทรายไหลลงไปอุดตันท่อระบายน้ำของชุมชน ตนเองจึงไปพูดคุยกับวิศวกรของโครงการถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งทางวิศวกรรับปากว่าจะนำเครื่องจักรมาขุดดูดเอาทรายที่อุดตันออก ส่วนความเสียหายคงต้องคุยกับบริษัทรับเหมาว่าจะชดเชยอย่างไรได้บ้าง
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนสมานพิชากร ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ไว้เป็นหลักฐานกับความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้ตัวแทนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู มาพูดคุยตกลงค่าความเสียหายกับทางโรงเรียนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โรงเรียนสมานพิชากร เปิดสอนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลถึงอนุบาล 3 มีจำนวน 5 ห้องเรียน นักเรียนประมาณ 30 คน ถูกน้ำท่วมชั้นล่างทั้งหมดสูงประมาณ 30 ซม.ได้รับความเสียหาย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์การเรียนของเด็ก และสื่อการสอนของครู โดยมีน้ำผุดจากท่อระบายน้ำเข้ามาภายในโรงเรียนตั้งแต่เวลา 02.00 น.วันที่ 5 ก.ย.2565 ทำให้ต้องปิดการเรียนจำนวน 2 วัน คือวันที่ 5-6 ก.ย.65
ข่าว โดย ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ สำนักข่าวเนชั่น จ.นนทบุรี