จากที่ น.ส.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 07.00 น. พายุโซนร้อนหมุ่ยฟ้า บริเวณทะเลแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทางฝั่งตะวันออกของทะเลฟิลิปปินส์ ซึ่งห่างจากหมู่เกาะลูซอน ประมาณ 500 กิโลเมตร โดยมีเป้าหมายเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทางประเทศไต้หวัน และทะเลจีนตะวันออก ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
เบื้องต้นมีรายงานว่า โดยพายุไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย ซึ่งพายุโซนร้อนหมุ่ยฟ้านับเป็นพายุลูกที่ 12 เกิดจากความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น ทำให้ลมม้วนเอาพายุเคลื่อนตัวไปยังบริเวณด้านบน แต่หากความกดอากาศสูงดังกล่าวกดลงมาถึงข้างล่างจะม้วนเข้ามายังฝั่งประเทศเวียดนาม สปป.ลาว และเข้ามายังประเทศไทย จึงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกรมอุตุนิยมวิทยาจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
แต่ถึงแม้ว่า พายุหมุ่ยฟ้า จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่ในช่วงนี้ประเทศไทยก็ต้องเผชิญอยู่กับช่วงฝนตกหนัก และเมื่อเช็คสภาพอากศวันนี้พบว่า ทั่วไทยยังมีฝนตกต่อเนื่อง และยังเน้นช่วงเย็นค่ำ ซึ่งตอนเช้ายังพอมีแดดบ้าง โดยเฉพาะช่วง 9-10 ก.ย.2565 ยังมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดฝนช่วงนี้มาจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ซึ่งสวิงขึ้น-ลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ยังมีกำลังค่อนข้างแรง รวมทั้งยังคงมีกระแสลม ไหลเวียนเข้าหากัน (cyclonic) ปกคลุมบริเวณภาคกลาง
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ไว้ด้วย
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไปอีก 1-2 วันนี้
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 9 กันยายน 2565)" ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 09 กันยายน 2565
ระบุว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่
โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
วันที่ 9 กันยายน 2565
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และนครราชสีมา
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี
รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มี
ฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 05.00 น.
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews