หมอธีระ เผยข้อมูลหายป่วยโควิดแล้ว 12 เดือน ยังเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคต่างๆ

09 กันยายน 2565

"หมอธีระ วรธนารัตน์" เผยข้อมูล แม้หายป่วยโควิด-19 แล้ว 12 เดือน พบยังเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคต่างๆ มากกว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อ

"หมอธีระ" หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ของไทย 

จากข้อมูล Worldometer เช้านี้พบว่า

จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 15 ของโลก และอันดับ 6 ของเอเชีย แม้สธ.ไทยจะปรับระบบรายงานตั้งแต่ 1 พ.ค.จนทำให้จำนวนที่รายงานนั้นลดลงไปมากก็ตาม


หมอธีระ เผยข้อมูลหายป่วยโควิดแล้ว 12 เดือน ยังเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคต่างๆ

 

...Long COVID Research Initiative (LCRI)

ล่าสุดเมื่อวานนี้ 8 กันยายน 2565 ได้มีการประกาศข่าวการจัดตั้งโครงการวิจัยเกี่ยวกับ Long COVID ในชื่อว่า Long COVID Research Initiative (LCRI) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน ตั้งแต่นักวิทยาศาสตร์ ผู้ป่วย และแพทย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้ง Harvard, Stanford, UCSF, the J. Craig Venter Institute, Johns Hopkins, University of Pennsylvania, Mount Sinai, Cardiff, และ Yale

เพื่อมุ่งวิจัยหากลไกการทำให้เกิดปัญหา Long COVID และหาวิธีรักษา

นี่เป็นรูปธรรมที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าปัญหา Long COVID นั้นเป็นเรื่องจริงและส่งผลกระทบมากมายต่อทั้งผู้ป่วยและสังคม

...ด้วยความรู้ในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีจำเพาะที่จะป้องกันและรักษาภาวะ Long COVID ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ

การฉีดวัคซีนจนครบตามกำหนดนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิด Long COVID ได้ราว 15% ซึ่งถือว่าน้อย แต่การฉีดวัคซีนก็เป็นหนทางที่ควรทำ เพราะจะช่วยลดโอกาสป่วยรุนแรง ลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต และยังช่วยลดโอกาสแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ 24% อีกด้วย

 

การศึกษาในเอสโตเนีย ติดตามดูคนที่ติดเชื้อกว่า 66,000 คน พบว่าหลังหายจากการติดเชื้อช่วงแรกแล้ว แม้ยาวนานไปถึง 12 เดือนหลังติดเชื้อ ก็พบว่ามีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคต่างๆ ทั้งระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบหายใจ และอื่นๆ มากกว่าคนที่ไม่เคยติดเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สูงอายุ ดังนั้นจึงควรป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด

หมอธีระ เผยข้อมูลหายป่วยโควิดแล้ว 12 เดือน ยังเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคต่างๆ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews