ความคืบหน้าล่าสุดจากกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2560 ที่ปรากฏภาพในสังคมออนไลน์ถึงอาการป่วยของเด็กหญิงวัย 3 ขวบคนหนึ่ง มีอาการหน้าบวม ปากคอบวม และอาเจียน ซึ่ง น.ส.นิษฐา หรือ "แม่ปุ๊ก" ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก่อนขายสินค้าและเปิดรับบริจาคเพื่อเป็นค่ารักษา และน้องอมยิ้มเสียชีวิตในปี 2562
ปีต่อมาแม่ปุ๊กเริ่มโพสต์อาการป่วยของ "น้องอิ่มบุญ" ลูกชายคนเล็กที่มีอาการคล้ายกัน และมีการเปิดรับบริจาคเช่นเดิม แต่ครั้งนี้เริ่มไม่ส่งสินค้าให้ผู้สั่งซื้อ จนถูกแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง โลกโซเชียลสืบพบว่า ผู้ก่อเหตุให้เด็กทั้ง 2 คนกลืนอาหารผสมน้ำยาล้างห้องน้ำต่อเนื่องกันเพื่อให้ป่วยและจะได้เปิดรับบริจาคได้
ล่าสุดวานนี้ (15 ก.ย.65) ศาลอาญา มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ คม.38/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 3 โจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฐติวรรณ หรือ ปุ๊ก จำเลยในข้อหาค้ามนุษย์ฯ เพื่อแสวงหาประโยชน์ฯจากการนำคนมาขอทานฯ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ทำการขอทานฯ, ฉ้อโกงฯ, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ชักจูงฯ ใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน
โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ส่วนที่จำเลยให้การรับสารภาพนั้นเพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงไม่ลดโทษให้ โดยเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงให้ประหารชีวิตสถานเดียว
ทั้งนี้ เมื่อจำเลยต้องโทษประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษที่โจทก์ขอบวกโทษมารวมเข้ากับคดีนี้ได้อีก และไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่โจทก์ขอ โดยศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยคืนเงิน จำนวน 31,600 บาท จำนวน 2,000 บาท จำนวน 3,800 บาท จำนวน 3,140 บาท จำนวน 2,400 บาท แก่ผู้เสียหายที่ 2-6 ตามลำดับด้วย และให้รับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews