ความคืบหน้าล่าสุด หนุ่มวัย 16 ปี ในพื้นที่จ.นนทบุรี ถูกชายฉกรรจ์อุ้มหายไป สร้างความร้อนใจแก่ครอบครัวและญาติอย่างมาก ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า พบหนุ่มวัย 16 ปี คนดังกล่าวแล้ว ซึ่งน้องถูกชายฉกรรจ์ 6-7 คนอุ้มขึ้นรถ ถูกซ้อมอาการสาหัสอยู่ไอซียู
โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ณัฐธนพล อินทร์เรืองศร สว. (สอบสวน) สภ. ปากเกร็ด รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าร้านจำหน่ายและรับซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรีบรุดไปตรวจสอบ
หนุ่ม16โดนอุ้ม ในที่เกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านซ่อมรถจักรยานยนต์และจำหน่ายรถจักรยานยนต์มือสอง บริเวณหน้าร้าน พบเพียงปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอกในที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นจากการสอบสวนพยานทราบว่า มีชายฉกรรจ์ 6-7 คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ สีดำ กับ รถเก๋ง 1 คันมาจอดข้างร้าน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินตรงมาที่ หนุ่มอายุ 16 ปีแล้วพูดคุยกันอยู่ราว 5-10 นาที ตอนนั้นตนคิดว่ากลุ่มชายทั้งหมดคงมาติดต่อขอซื้อรถจักรยานยนต์ Kawasaki รุ่น Serpico จากน้อง ที่ประกาศขายใน Facebook
แต่เห็นพูดคุยกันอยู่นานแล้ว 5-10 นาที ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มา จะเอาปืนจี้ที่หลังน้อง แล้วพาตัวขึ้นรถ ขณะนั้นเองชายอีกคนได้คว้าปืน จากเอว ยิงขึ้นฟ้า 1 นัด ทำให้ชายฉกรรจ์อีกคนที่จี้หนุ่มวัย 16 อยู่เกิดความไม่พอใจ จึงตะโกนว่า
"มึ...ยิงปืนขึ้นฟ้าทำไม" ก่อนที่จะใช้ปืนยิงใส่ชายคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้า จนได้รับบาดเจ็บที่สีข้าง ล้มลงกองกับพื้น แล้วทั้งหมดก็ขึ้นรถพาตัว หนุ่มวัย 16 ปีขับหลบหนีออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
ส่วนคนเจ็บถูกยิงที่บริเวณสีข้างด้านซ้าย ทราบชื่อ นายสุรชัย ไพทยะทัต อายุ 25 ปี ชาวกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้าน พร้อมทั้งขอ Server จากทางเจ้าของร้าน เพื่อตรวจสอบภาพเหตุการณ์ที่ยิงกันในครั้งนี้
ล่าสุดมีรายงานว่า หนุ่มวัย 16 ปีอยู่ห้องไอซียู ตอนแรกอาการหนัก ตอนนี้รู้สึกตัวแล้ว โดยพยาบาลบอกว่าตอนเจอใหม่ๆ สลบหมดสติน้ำลายฟูมปาก และคนที่พบหลานของตนคือตำรวจมอเตอร์เวย์ ตำรวจได้นำตัวส่งโรงพยาบาล
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมจากการสืบสวนว่า สาเหตุที่ หนุ่มวัย 16 โดนอุ้มนั้น เกิดขึ้น เพราะหนุ่มวัย 16 ไปรับจ้างเปิดบัญชีม้ากับแก๊งที่มาอุ้ม โดยให้เอทีเอ็มและรหัสกับทางผู้ที่จ้าง แต่ต่อมาปรากฎว่า หนุ่มวัย 16 เห็นว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีเยอะ เพราะมีแอปพลิเคชั่นออนไลน์ จึงบล็อกเอทีเอ็ม แล้วกดเงินออนไลน์ ออกจากบัญชี 346,000 บาท จนทำให้แก๊งที่ว่าจ้าง โกรธแค้น จึงได้ตามเข้ามาอุ้มและทำร้ายจนอาการสาหัส
อย่างไรก็ตาม จากรายงานทางเจ้าหน้าที่พบว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ดได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะขับหลบหนี เพื่อจะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews