นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้โพสต์เรื่องราว คดีดัง ปี 2562 ระหว่าง อาม่าฮวย กับลูกสาว “มาวดี “ ที่ได้ฟ้องร้องกันในประเด็น โกงเงินอาม่าฮวย หลาย100ล้านบาท หลังจากเมื่อวันที่15 กันยายน 2565 ศาลอาญาพระโขนง นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 3654/2563 ระหว่าง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ (ลูกสาวของนางฮวย ศรีวิรัตน์ หรืออาม่าฮวย) โจทก์ นางสาวมินตรา ศรีวิรัตน์ (หลานสาวอาม่าฮวย) จำเลย ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
โดยคดีนี้สืบเนื่องมาจาก อาม่าฮวย มอบอำนาจให้นางสาวมินตรา หลานสาว ฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินจากธนาคารและนางมาวดี เป็นเงินกว่า 350 ล้านบาท แต่ในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีนั้นอาม่าฮวยใช้วิธีปั๊มหัวแม่มือ เพราะเซ็นหนังสือไม่ได้แล้ว แต่หลังจากศาลแพ่งพระโขนงรับฟ้องเพียงไม่กี่วัน นางสาวมินตรา ก็ได้นำกระดาษที่มีข้อความว่า “คดีโกงเงิน 200 ล้าน” มาลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวที่เปิดเป็นสาธารณะ โดยอ้างว่า อาม่าฮวยเป็นคนเขียนข้อความนี้ขึ้นมา
โดยทนายอนันต์ชัยได้โพสต์เรื่องนี้ว่า
“เรื่องจริงที่พูดไม่ได้ ยิ่งจริงยิ่งผิด”
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ศาลอาญาพระโขนง คดีหมายเลขดำที่ อ 3654/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 2903/2565 ระหว่าง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ โจทก์ กับ นางสาวมินตรา ศรีวิรัตน์ จำเลย ได้มีคำพิพากษา จำคุกจำเลย 2 ปี ปรับ 100,000 บาท ลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน รอการลงโทษ 2 ปี ปรับ 66,666.66 บาท
หลังจากศาลพิพากษาแล้ว ทนายกฤษฎา อินทามระ ทนายความนางมาวดี ก็ได้ให้ข่าวและให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างๆ หลายสำนัก โดยไม่บอกข้อเท็จจริงทั้งหมดว่า ศาลลงโทษหมิ่นประมาทเรื่องไหน ?
ทำให้นางสาวมินตรา ได้รับความเสียหาย ประชาชนเข้าใจผิด ผมในฐานะทนายความของนางสาวมินตรา จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริง โดยนำ #คำพิพากษาฉบับเต็ม ของศาลอาญาพระโขนง มาลงเพื่อให้สำนักข่าวต่างๆ และประชาชนทราบ และช่วยลงข่าว แก้ข่าวให้ตรงความจริงด้วยครับ
คดีนี้ นางมาวดี ลูกสาวอาม่าฮวย ฟ้องนางสาวมินตรา หลานอาม่าฮวย ข้อหา ปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม,หมิ่นประมาท,ผิด พรบ.คอมพิวเตอร์(ยกฟ้องชั้นไต่สวนมูลฟ้อง) โดย จำเลย ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟสบุ๊คของจำเลย “Minnie Srivirat” 3 ข้อความ คือ ข้อความว่า….
1. ”ดีโกงเงิน 200 ล้าน” ซึ่งเป็นลายมือของนางฮวย บนแผ่นกระดาษ
2. ”5 ล้านให้อาม่า หาว่าพ่อเราฮุบ(แต่คุณฟ้องเอาคืนพร้อมดอกเบี้ยสูงสุด)ทั้งๆที่เราเอาไปซื้อรถตู้ให้อาม่า+ค่าใช้จ่ายอาม่า เพราะอามาเดินทางนั่งรถตู้ไปโรงพยาบาลและทุกที่ รถตู้เบนซ์ของอาม่าโดนคุณยึด”
3. ”เดิมทีอาม่ามีรถตู้เบนซ์,รถเบนซ์เปิดประทุน ชื่ออาม่า แต่คุณยึดไป อาม่าขอคืนด้วย คุณไม่ให้ และ #ปลอมลายเซ็นอาม่าโอนรถเป็นของทางฝั่งคุณแล้ว”
ข้อความที่ 1 ศาลวินิจฉัยว่า เอกสารที่นางฮวยเขียนว่า “ดีโกง 200 ล้าน” มิใช่เอกสารของโจทก์ แต่เป็นเอกสารนางฮวย นางฮวยจึงเป็นผู้เสียหายไม่ใช่โจทก์ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย (ในข้อหาปลอมเอกสาร ใช้เอกสารปลอม และหมิ่นประมาท)
ข้อความที่ 2 ศาลวินิจฉัยว่า ไม่มีข้อความตอนใดที่จะรับฟังได้ว่า เป็นการกล่าวร้ายใส่ความโจทก์
ข้อความที่ 3 ศาลวินิจฉัยว่า เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์…แม้โจทก์จะเป็นผู้ปลอมลายมือชื่อนางฮวยและใช้เอกสารปลอมดังกล่าวจดทะเบียนรถทั้งสองคันเป็นของตน ตามที่นายวรวิทย์ ศรพรามณ์ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ตามรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี เอกสารหมาย ล.62 หรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อรถทั้ง 2 คันเป็นของนางฮวย มิใช่ของจำเลยทั้งจำเลยมิใช่ผู้รับมอบอำนาจจากนางฮวยแต่อย่างใด…การที่จำเลยพิมพ์ข้อความลงในเฟสบุ๊ค จึงมิใช่กรณีเพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329(1) ประกอบกับข้อความดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน แม้ว่าเรื่องที่กล่าวหาจะเป็นความจริง ก็ไม่เป็นเหตุยกเว้นให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 330 (ยังมีศาลอุทธรณ์อีกครับ ยังไม่จบ)
จากคำวินิจฉัยดังกล่าว สรุปได้ว่า “แม้เป็นเรื่องจริง จำเลยไม่มีส่วนได้เสีย เป็นเรื่องส่วนตัว” ก็ผิด เป็นอุทาหรณ์สอนใจมือคีย์บอร์ดทั้งหลาย
ดังนั้น คดีนี้ จึงไม่เกี่ยวกับคดีที่นางฮวย ดำเนินคดีกับนางมาวดี #ลักทรัพย์เงินในธนาคารกสิกรไทย จำนวน 200 กว่าล้านบาท ที่ศาลอาญาพระโขนง ที่ศาลจะพิพากษา ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.30 น. และคดีที่นางฮวย ดำนินคดีกับนางมาวดี ที่ ลักเงินในธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 24 ล้านบาทเศษ ซึ่งศาลชั้นต้น จำคุก 12 ปี ไม่รอลงอาญา และศาลอุทธรณ์จะอ่านคำพิพากษา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เวลา 9.00 น. นะครับ
โปรดติดตามชมอย่ากระพริบตา !!!
ทนายกฤษฎา กรุณาแจ้งนักข่าวให้หมด ว่า ศาลลงโทษนางสาวมินตรา เรื่องไหน อย่างไร การให้ข่าวมั่วๆให้ประชาชนเข้าใจผิดเดี๋ยวท่านจะถูกฟ้องร้องเสียเอง…ผมขอเตือนด้วยความหวังดีครับ
และผมขอให้นักข่าวที่ลงข่าวดังกล่าว ช่วยแก้ข่าวเพื่อให้ประชาชนทราบตามข้อเท็จจริงที่ผมได้เรียนมาแล้วด้วยครับ จักขอบพระคุณยิ่ง
อ่านคำพิพากษาดีๆ ครับแล้วจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ประชาชนไม่ได้โง่
“ขาว ก็คือ ขาว ดำ ก็คือ ดำ” ไม่สามารถผสมกันได้ครับ