สาวหล่อเดือด หลังทนไม่ไหว ออกรถเงินสด รถมีปัญหาหลายอย่าง คว้าชะแลงทุบรถ ประชดศูนย์ ล่าสุดทางศูนย์บริการรถยนต์ออกมาชี้แจงเเล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พบนางสาวรุ่งหทัย อายุ 42 ปี เป็นนักธุรกิจ ได้ใช้ชะแลง ปีนขึ้นบนกระโปรงรถ ก่อนจะทุบที่กระจกหน้ารถของตนเอง แตกละเอียด เพื่อประชดประชันศูนย์รถยี่ห้อหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา หลังจากเพิ่งซื้อรถป้ายแดงมาใหม่ด้วยเงินสด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 และใช้รถไปได้แค่ 938 กิโลเมตร ก็มีปัญหาหลายอย่าง
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 สาวหล่อได้ไปออกรถยนต์ป้ายเเดงจากศูนย์บริการยี่ห้อหนึ่งและใช้รถไปได้แค่ 938 กิโลเมตร ซึ่งนางสาวรุ่งหทัย เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองซื้อรถด้วยเงินสด เป็นเงิน 1,474,000 บาท มาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากนั้นขับได้ประมาณ 900 กว่ากิโลเมตร รถก็เริ่มมีปัญหา ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทางศูนย์รถแล้ว แต่ทางศูนย์แจ้งว่าจะซ่อมให้ โดยตรงยืนยันว่ารถซื้อมาด้วยเงินสดป้ายแดง และวัตถุประสงค์เพื่อต้องการนำมาใช้ไม่ได้มาซ่อม จึงรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบของศูนย์รถดังกล่าว อีกทั้งศูนย์รถ ก็ยืนยันว่าจะซ่อมให้อย่างเดียว ซึ่งตนก็เตรียมเงินสดจำนวน 3-4 แสนบาท เพื่อต้องการพูดคุยกับศูนย์ ยืนยันต้องการเปลี่ยนรถใหม่และยอมเพิ่มเงินก็ได้ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ต่อมาได้มีการร้องไปยัง สคบ. ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค แต่เรื่องก็เงียบหายไป จึงต้องการที่จะแสดงออกให้เห็นสะท้อนไปยังศูนย์รถแห่งหนึ่ง ได้รับทราบความรู้สึกของประชาชนคนหนึ่ง ว่าซื้อรถป้ายแดงมาใหม่แต่กลับจะต้องนำมาซ่อม ซึ่งหลังจากนี้ตนจะนำรถคันนี้ไปซ่อมแล้วนำไปขาย จะได้เงินเท่าไหร่ก็ช่างมันแล้วจะนำเงินมาซื้อรถใหม่ จึงอยากฝากให้ศูยน์รถแห่งนี้ช่วยดูแลบริการหลังการขายด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ทิ้งขว้างกันแบบนี้
ล่าสุดจากศูนย์บริการรถยนต์หลายดังกล่าว ได้ออกมาชี้เเจ้ง ดังนี้
จากเหตุการณ์ที่ลูกค้าฟอร์ดในจังหวัดนครราชสีมาทุบรถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 บริษัทขอชี้แจงดังนี้
จากการที่ลูกค้ามีความกังวลใจเรื่องการแสดงสัญญานแจ้งเตือนของระบบตรวจวัดแรงดันลมยางไม่ถูกต้อง บริษัทได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลูกค้ามีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์บางรุ่นอาจส่งคลื่นความถี่ที่มีผลต่อระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) บริษัทจึงแนะนำให้ลูกค้าถอดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวออก ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ และได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนกับคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าต่อไป
ที่มา:ฮักนะโคราช 2