จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ประชาชนหลากหลายอาชีพได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จนหลายคนต้องมองหาอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ เช่นที่จังหวัดชัยนาท มีหญิงสาวที่ประกอบอาชีพเป็นแม่ค้าขายอาหารภายในโรงเรียน ผันตัวมาประกอบอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงด้วงสาคูเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว เนื่องจากภาวะโรคระบาดก่อนหน้านี้ทำให้โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอน จึงไม่สามารถขายอาหารได้
นางวรรณชนก ใจสิทธิ อายุ 48 ปี เจ้าของฟาร์มด้วงเจ้าดุ๊กดิ๊ก ตั้งอยู่ 199 ม.7 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.ชัยนาท เล่าว่า เดิมทีตนเองประกอบอาชีพขายอาหารให้กับเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 โรงเรียนจึงหยุดทำการเรียนการสอน ตนเองก็ไม่สามารถขายอาหารให้กับนักเรียนได้ จึงคิดหาอาชีพเสริมในช่วงนั้น และมีคนรู้จักชักชวนให้เลี้ยงด้วงสาคู ภายหลังตนเองก็ศึกษาค้นคว้าจากยูทูปและฟาร์มอื่น ๆ อยู่นาน ลองผิดลองถูกในการเลี้ยงเกือบปี จนมาเข้าที่เข้าทางเมื่อประมาณ 5 เดือนก่อน
สำหรับการเลี้ยงด้วงสาคูนั้น ตนเองซื้อพ่อ-แม่พันธุ์มาจากภาคใต้ แล้วมาเพาะเลี้ยงในกะละมัง แรกเริ่มเลี้ยงไม่กี่สิบกะละมัง แต่ปัจจุบันมองช่องทางการตลาดแล้วเห็นว่าตลาดของด้วงสาคูนั้นสามารถไปต่อได้ มีคนเลี้ยงน้อย จึงได้ขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้น ปัจจุบันฟาร์มของตนเองเพาะเลี้ยงด้วงสาคูมากกว่า 600 กะละมัง ได้ผลผลิตหลายร้อยกิโลกรัม เพียง 35 วันก็เก็บขาย สร้างรายได้ประมาณ 4-5 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองมองว่าวิธีการเลี้ยงด้วงสาคูนั้นไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก มีเพียงการให้อาหารที่ต้องใช้คนช่วยยกเท่านั้น ตอนนี้คนในครอบครัวต่างเห็นว่าธุรกิจการเลี้ยงด้วงสาคูนี้ไม่ใช่อาชีพเสริมอีกต่อไป ถือเป็นอาชีพหลักในครอบครัว
ทั้งนี้หลายคนจะมองว่าตัวด้วงสาคูไม่ค่อยน่ากิน เนื่องจากตัวใหญ่ แต่หลายคนที่ไม่เคยกินมาก่อน พอได้มาลองกินต่างก็ติดใจในรสชาติ ที่ฟาร์มตนเองตอนนี้จำหน่ายออนไลน์ ในรูปแบบแช่แข็ง ราคากิโลกรัมละ 189 บาท ส่วนตัวสดเพื่อนำไปให้สัตว์เลี้ยงที่กินแมลงจำหน่ายอยู่ที่ชุดละ 59 บาท สำหรับผู้ที่สนใจจะสั่งซื้อตัวด้วงสาคูสามารถติดต่อได้ที่ทางเพจ “ฟาร์มด้วงเจ้าดุ๊กดิ๊ก” หรือที่เบอร์โทรศัพท์ 095-509-6267
ข่าว โดย วรชล ฟักขาว สำนักข่าวเนชั่น จ.ชัยนาท