สืบเนื่องจากประเด็นร้อนแรงเมื่อ ศาลสั่งจำคุก หยอง ลูกหยี 6 เดือน หลังเจ้าตัวรับสารภาพ หมิ่นประมาท"ยุ้ย ญาติเยอะ"นักร้องลูกทุ่งดัง โดยการไลฟ์สดเชิงเสียดสี พูดจาดูหมิ่น ยุ้ย ญาติเยอะ เป็นนักร้องตกยุคไม่มีงาน ทำให้ยุ้ย ญาติเยอะได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง ทำให้ทาง"ยุ้ย ญาติเยอะ" จ่อฟ้อง "หยอง ลูกหยี" อีก5แสนบาท เหตุยังติดใจค่าเสียหายในส่วนแพ่ง
ล่าสุดทางด้าน ยุ้ย ญาติเยอะ ได้มาออกรายการโต๊ะหนูแม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา เพื่อเคลียร์ปมนักร้องตกอับจนต้องมีเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีกับตลกชื่อดัง
หนูแหม่ม : ผ่านทุกดราม่ามาได้อย่างไร ?
"แล้วผ่านดราม่ามาได้ด้วยความเข้มแข็งของครอบครัว ซึ่งตอนที่เราเริ่มมีอารมณ์หน่อยหรือโมโหข่าวอะไรแบบนี้คือพ่อกับแม่ก็จะนั่งพูดกันตลอดว่าให้มันผ่านไป เหมือนท่านอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา"
หนูแหม่ม : ขอถามถึงดราม่า หยอง ลูกหยี ?
"จริงๆ เราถูกทนายสั่งห้ามว่าอย่าให้พูดเยอะ เพราะเดี๋ยวหลุด ซึ่งมันอยู่ในกระบวนการต่างๆ ก็อาจจะต้องขอข้ามไปในเรื่องนี้ แต่ถ้าถามว่ารับมือกับเรื่องแบบนี้ยังไง ในส่วนตัวของเราเองก็ต้องยอมรับความจริงในสิ่งที่จริงก็คือจริง ในสิ่งที่ไม่จริงแล้วก็ไม่ยอมรับ ในหลายอย่างเราก็จำจากพ่อมาทั้งหมดเพราะเค้ามีสมุดไดอารี่ของเค้า ซึ่งเป็นคำสอนของพ่อเขาตอนนี้ก็ยังอยู่"
หนูแหม่ม : ย้อนกลับไปชีวิตวัยเด็กเป็นยังไง ?
"ชีวิตเราจะไม่เหมือนเด็กคนอื่นตั้งแต่อยู่โรงลิเกแล้ว เพราะเราต้องร้องลิเกและร้องเพลงตลอด และมันเป็นความชอบของตัวเองด้วยที่อยากจะอยู่แบบนี้ ซึ่งเห็นเพื่อนวิ่งเล่นกันเราก็ต้องมาทำงาน แต่พอถึงเวลาคุณพ่อมารับเราก็ต้องกลับมาทำงาน ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาซึ่งพ่อก็จะถามว่าไหวไหมทำไหมถ้าไม่ทำก็ไม่เป็นไร แต่มีความตั้งใจว่าจะต้องเป็นลิเกอยู่แล้วจึงเป็นจุดเริ่มต้นของทำให้คนรู้จัก ยุ้ย ญาติเยอะ"
หนูแหม่ม : ล่าสุดผันตัวเองมาขายของ ?
"ตอนนี้มีเพจขายของชื่อว่า ยุ้ยขายเยอะ ก็คือทำค่าเวลาไป แล้วตอนช่วงโควิดเราไม่ได้เดินสายทำคอนเสิร์ตมันก็เหงา เราก็เลยหาอะไรมาขายตอนแรกขายหมูแดดเดียวซึ่งดีมาก แต่พี่เล็กเขาเป็นไทรอยด์แล้วเหนื่อยเลยหยุดไป เลยหาของที่รับมาขายอะไรอย่างนี้ดีกว่า ซึ่งขายทุกอย่างเลยขายกาแฟขายขายบ็อกเซอร์ ขายทั้งหมดเลย ตั้งแต่ของกินยันของใช้ ซึ่งรายได้ก็ถือว่าดีพอสมควร"
หนูแหม่ม : จนเกิดดราม่าตกอับ ?
"ก็ต้องมองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเราก็จะมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ที่มันดีกว่านี้ แต่เราก็มีเหตุผลเพราะเราไม่ต้องการเอาเงินที่เก็บไว้มาใช้ เนื่องจากอันเก็บก็เก็บหาใหม่ก็ยังพอได้อยู่ เพราะว่าเงินเก็บก็คือของลูกไปแล้ว ทำงานเพื่อลูกอยู่แล้ว ในส่วนที่เป็นรายจ่ายใหม่ค่าเทอมลูกเราควรหาใหม่ ถ้ามันทำไหวก็ทำไปแล้วเคยมีรายได้ทุกวันไปรำวงไปรับเชิญ พอวันนึงที่มันไม่มีเราก็ใจหายเลยลุกขึ้นมาหาอะไรทำ อย่างน้อยก็ค่าขนมค่าเทอมลูก"
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews