ความคืบหน้าปม"ธนาคารยึดบ้านผิดหลัง" ล่าสุดธนาคารออมสิน ออกมาชี้แจงแล้ว พร้อมออกหนังสือเเถลงขอโทษการที่ธนาคารออมสินเข้ายึดทรัพย์และรื้อถอนบ้านผิดหลัง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยได้ว่าจ้างผู้รับเหมาภายนอกเข้ามาปรับปรุงบ้านที่ซื้อมาจากการขายทอดตลาด เเละขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ทรัพย์สินต่างๆให้บ้านมีสภาพดีพร้อมขาย โดยระบุว่า
ธนาคารออมสินชี้แจง กรณีข่าวการปรับปรุงบ้านผิดหลัง จากกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวว่าธนาคารออมสินเข้ายึดทรัพย์และรื้อถอนบ้านผิดหลัง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี นั้น ธนาคารออมสินขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้ ธนาคารฯ ได้เข้าซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด อันได้แก่ บ้านเลขที่ 99/44 หมู่บ้านวนาสิริพาร์ควิลล์ ต.ลาดหลุมแก้ว อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12140 ในราคา1.6 ล้านบาท
และต่อมาธนาคารออมสินได้ว่าจ้างผู้รับเหมาภายนอก (outsource) เพื่อปรับปรุงบ้านที่ซื้อมาจากการขายทอดตลาด ให้มีสภาพดีพร้อมขาย โดยไม่มีการรื้อถอนบ้านแต่อย่างใด ทั้งนี้ ผู้รับเหมาภายนอกได้เข้าสำรวจพื้นที่แต่เกิดความผิดพลาดเข้าปรับปรุงบ้านผิดหลัง ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดเนื่องมาจากบ้านหลังที่เข้าปรับปรุง และบ้านที่ธนาคารเข้าซื้อ ทั้งสองหลังมีลักษณะคล้ายกัน และต่างไม่มีป้ายเลขที่บ้าน ซึ่งปัจจุบันผู้รับเหมาภายนอกได้เข้าดำเนินการแล้วเสร็จ ทำให้บ้านหลังดังกล่าวมีสภาพเปลี่ยนแปลง ไปอย่างมีนัยยะสำคัญตามรูปที่แนบ
ก่อนการเข้าปรับปรุงสภาพบ้านเพื่อรอการขาย ผู้รับเหมาภายนอกได้เคลื่อนย้ายสิ่งของ ภายในบ้านหลายรายการและธนาคารนำไปเก็บรักษาไว้ ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ และพบว่า เป็นการปรับปรุงบ้านผิดหลัง ธนาคารได้ติดต่อเจ้าของบ้านอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการหารือร่วมกัน เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 โดยธนาคารได้แจ้งขออภัยในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และแจ้งขอส่งมอบ ของที่เก็บรักษาไว้ จำนวน 20 รายการ อาทิ เครื่องเล่นซีดี โต๊ะทำงานไม้ หนังสือ และพระบูชา คืนแก่ เจ้าของบ้าน
ทั้งนี้ ปัจจุบันเจ้าของบ้านยังขอไม่รับของดังกล่าวคืน และเรียกค่าเสียหายสำหรับสิ่งของข้างต้น รวมถึงสิ่งของอื่นๆ จำนวน 2.2 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารได้นัดหารือกันอีกครั้ง ในวันที่ 4 ตุลาคม 2565 เพื่อพิจารณาข้อเรียกร้อง และประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ธนาคารออมสินยืนยันที่จะรับผิดชอบค่าเสียหายอย่างเต็มที่ตามที่เกิดขึ้นจริง และขออภัยในความ ผิดพลาดครั้งนี้ โดยหากมีความคืบหน้ารนาคารจะแจ้งให้ทราบต่อไป GSBsociety GSB Contact Center 1115
ก่อนหน้านี้ทางทนายคู่ใจ ของทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารยึดบ้านผิดหลัง ทางเพจทนายคู่ใจได้รับเรื่องร้องเรียนสอบถามมาจากแฟนเพจ
คุณกาญจนา ร้องกับทางเพจทนายคู่ใจเข้ามาว่า ตนมีบ้านอยู่ที่หมู่บ้าน วนาสิริ พาร์ควิวล์ ปทุมธานี บ้านเลขที่ 99/38 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา มีผู้รับเหมาเข้ามารื้อทรัพย์สินภายในบ้านของตนออกไปจนหมด เหลือแต่บ้านโล่งๆ บริเวณภายนอกก็ตัดต้นไม้ รื้อกันสาด ยกสิ่งของออกไปจนหมด และติดป้ายประกาศทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุก
วันที่15 กันยายน 2565 เพื่อนบ้านสงสัยว่าทำไมมีป้ายติดประกาศว่าบ้านเป็นทรัพย์สินของธนาคารห้ามบุกรุกและติดประกาศขาย แต่ ในประกาศเป็นบ้านเลขที่ 99/44 เพื่อนบ้านเลยโทรติดต่อธนาคารไปเพื่อที่จะขอซื้อดู จึงได้รู้ว่าบ้านที่จะขายนั้นบ้านเลขที่99/44 ไม่ใช่ บ้านเลขที่ 99/38 เพื่อนบ้านเลยโทรแจ้งตนว่า “จะขายบ้านหรอ เห็นคนมารื้อบ้านรีโนเวทและติดป้ายของธนาคาร” ซึ่งพอทราบเรื่องจากเพื่อนบ้านแล้ว จึงได้รีบเดินทางไปที่บ้านหลังนั้น ซึ่งก็เห็นตามสภาพคือบ้านโล่งๆ ของถูกรื้อเอาออกไปจนหมดทุกอย่าง ประตูห้องครัวและประตูระเบียงถูกปิดล็อคโดยกุญแจของธนาคาร และก็ได้โทรแจ้งทางคอลเซ็นเตอร์ของธนาคาร คอลเซ็นเตอร์ก็รับเรืองไว้
วันที่ 16 กันยายน ได้ไปลงบันทึกแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจลาดหลุมแก้ว
วันที่18 กันยายน ตำรวจก็ขอเข้ามาดูบ้าน ถ่ายรูปและตนก็ได้เอากุญแจชุดใหม่ไปคล้องไว้ที่หน้าบ้าน เพราะรั้วหน้าบ้าน ธนาคารเอากุญแจออกไปแล้ว
สำหรับป้ายที่ติดหน้าบ้านและกุญแจรั้วหน้าบ้านพอทางธนาคารรู้ว่าผิด ธนาคารก็ได้รีบดำเนินการมาเอาป้ายและกุญแจออก ก่อนที่ตนจะเข้าไปที่บ้าน
วันที่ 16 กันยายน ก่อนที่จะเข้าไปแจ้งความได้ติดต่อไปที่คอลเซ็นเตอร์อีกครั้งทราบว่ารับเรื่องไว้ และจะติดต่อกลับภายใน 3 วันทำการ แต่เนื่องจากมีคนที่รู้จักกับทางนิติกรของธนาคารจึงโทรไปแจ้งฝ่ายนิติกรว่ามีการยึดบ้านผิด และผู้รับเรื่องแจ้งว่าจะให้เจ้าหน้าที่นิติกรติดต่อมา
วันที่ 17 กันยายน มีเจ้าหน้าที่นิติกรโทรมาขอโทษและแจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคารจริงที่เข้าทำบ้านผิดหลัง และธนาคารแจ้งว่าจะให้ทางนิติกรเข้ามาคุย จึงนัดให้ไปพบและคุยที่สถานีตำรวจในวันที่ 20 กันยายน
เมื่อวันที่ 20 กันยายน ตนกับทางตัวแทนธนาคารได้มาเจรจาตกลงค่าเสียหายกัน เบื้องต้นประเมินไว้ประมาณ 2 ล้านบาท ธนาคารแจ้งว่าเป็นการเข้าทำผิดหลัง ไม่ได้มีเจตนาแต่อย่างใด ทรัพย์สินบางอย่างได้ถูกเก็บไว้ที่อีกที่หนึ่ง แต่บางอย่างได้ถูกทำลายไปแล้ว เช่น เสื้อผ้า หนังสือเก่า รูปภาพ ของสะสมต่าง ๆ รวมถึงของใช้ของลูกซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ ไม่สามารถหามาทดแทนได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะให้รับของที่เก็บไว้คืนก่อน แต่ยังแจ้งไปว่ายังไม่รับคืน และยังไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง
วันที่ 26-27 กันยายน ได้โทรสอบถามทางเจ้าหน้าที่นิติกร และทนายของธนาคาร ว่าได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากำลังรวบรวมรายการทำทรัพย์สินที่ธนาคารเก็บไว้เพื่อจะส่งคืน แต่ไม่ได้พูดถึงการชดใช้ค่าเสียหายใดๆ การติดต่อดำเนินการทุกอย่าง เป็นเจ้าของบ้านที่ต้องคอยติดต่อ สอบถามไปเอง ไม่ได้รับการใส่ใจในการแก้ปัญหาใด ๆ จากทางธนาคารเลย
บ้านของตนเลขที่ 99/38 กับบ้านที่ถูกประกาศขาย 99/44 ห่างกันไป 3 หลัง และบ้านของตนยังไม่เคยถูกฟ้องไม่ได้มีคดีอะไรและไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ กับทางธนาคารที่เข้ามารื้อของด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews