กรมชลฯ ชี้แจงหลังว่อนข่าว อีสานน้ำเต็มเขื่อนอีก 10 วัน น้ำเหนืออาจถึงกทม.

03 ตุลาคม 2565

สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน ชี้แจงแล้วหลังว่อนข่าวลือ ภาคอีสานน้ำเต็มเขื่อนอีก 10 วัน น้ำเหนืออาจถึงกทม.

ตามที่ได้มีข้อความบนสื่อออนไลน์ต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องภาคอีสานน้ำเต็มเขื่อนอีก 10 วัน น้ำเหนืออาจถึงกทม. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรมชลฯ ชี้แจงหลังว่อนข่าว อีสานน้ำเต็มเขื่อนอีก 10 วัน น้ำเหนืออาจถึงกทม.

 

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความบนสื่อออนไลน์โดยระบุว่าภาคอีสานน้ำเต็มเขื่อนอีก 10 วัน น้ำเหนืออาจถึงกทม. ทางสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่ากรมชลประทานได้สนับสนุนบุคลากรเครื่องจักรเครื่องมือเข้าไปร่วมปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อเร่งช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้านการระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงยังสามารถระบายได้ดีเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำมูลเกือบ 2 เมตร กรมชลประทานโดยสำนักเครื่องจักรกลและสำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมบริเวณสะพานโขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี จากเดิมที่ติดตั้งไว้แล้วก่อนหน้านี้ที่บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เพื่อเสริมการระบายน้ำในแม่น้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง

 

สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีการรับน้ำจากแม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเหนือ โดยการใช้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในการควบคุมการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

กรมชลฯ ชี้แจงหลังว่อนข่าว อีสานน้ำเต็มเขื่อนอีก 10 วัน น้ำเหนืออาจถึงกทม.

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมชลประทาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://water.rid.go.th หรือโทร. 0-2241-3348

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเหนือ โดยการใช้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในการควบคุมการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ตอนล่าง ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews