สืบเนื่องจากเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพ นายไชยยศ ไชยพฤกษ์ อายุ 50 ปี พ่อค้าอาหารทะเลอบแห้งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ในสภาพถอดเสื้อพกพาอาวุธปืนเดินอยู่ใน ชุมชนบ้านยางน้อย ตำบลอุ่มเม่า อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าตัวออกมาชี้แจง ผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัก ไปแล้วว่า ในวันและเวลาดังกล่าวมีชาวบ้าน แจ้งให้ออกไปตรวจสอบเหตุชายเมาสุราคลุ้มคลั่ง ขับขี่รถซาเล้ง ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ภายในหมู่บ้านซึ่งห่างจากที่พักของตัวเองแค่ 200 เมตร จึงรีบร้อน พกพาอาวุธปืนประจำกายออกจากบ้านไปตรวจสอบในสภาพเปลือยกายท่อนบนโดยไม่ทันสวมเสื้อให้เรียบร้อย
อัพเดทความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 ต.ค. 65 ที่กระทรวงมหาดไทย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่าน ร.ท.ศิรา รามสูตร นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ ช่วยราชการสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อร้องทุกข์ ให้ตรวจสอบพฤติกรรม รวมถึงกำหนดบทลงโทษ นายไชยยศ ซึ่งพกพาอาวุธปืนเดินอยู่ในหมู่บ้านตามภาพในคลิป และประเด็นที่ นายไชยยศ เคยแต่งชุด ชรบ. ใช้เท้าเตะ ผู้ต้องหาเมายาบ้าปลิดชีพพ่อตัวเองเมื่อปี 2564
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า ตนไม่ได้โยงเรื่องถอดเสื้อพกปืนในหมู่บ้าน กับเรื่องเตะผู้ต้องหา ที่ถูกพันธนาการเอาไว้แล้วมาปนเปกัน แต่ตนได้รับทราบข้อมูลจากชาวบ้านว่าในอดีตเมื่อประมาณ 1 ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาบุตรชายของ นายไชยยศ เคยตกเป็นผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นบาดเจ็บ ขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า กระทั่งมีภาพของ นายไชยยศ ถอดเสื้อพกปืนเดินอยู่ในหมู่บ้านสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน จึงต้องออกมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ให้กับชาวบ้านกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว ถามว่าตนเคยให้ราคาคนพวกนี้ไหม ตนบอกได้เลยว่า "ไม่" แม้แต่จะเอ่ยชื่อตนยังไม่เคย อยากบอกว่าคนที่เป็นเจ้าหน้าที่มืออาชีพ เวลาเข้าจับคุมผู้ต้องหารายใดเขาไม่ใช้ความรุนแรงกระทืบกัน ส่วน นายไชยยศ จะแจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้นเชิญทำได้เลย ที่ผ่านมาตนรวบรวมเงินและสละเวลา ออกมาช่วยเหลือสังคมด้วยใจทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ไม่เคยหิวแสง
ในขณะที่ กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวอยู่นั้นปรากฏว่า นายไชยยศ บุคคลต้นเรื่องได้เดินทางมาที่กระทรวงมหาดไทยเช่นกัน เนื่องจากเจ้าตัวเดินทางมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง และเมื่อทราบว่า กัน จอมพลัง จะเดินทางมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อร้องเรียนตนเอง จึงรีบติดตามมา จนเกิดการปะทะคารมหวิดวางมวยกันในกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันห้ามก่อนที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะแยกย้าย
โดย นายไชยยศ ได้โชว์หนังสือแจ้งความดำเนินคดี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" และเพจ กัน จอมพลัง ตามฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและการกระทำผิดเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่ง นายไชยยศ ได้แจ้งความต่อ ร.ต.อ.เลิศชาย ผือลองไชย รอง สว.(สอบสวน) สน.สำราญราษฎร์ เอาไว้ เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังตรวจพบว่า เพจเฟซบุ๊ก กัน จอมพลัง นำภาพของตนเองมาโพสต์ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์เอาไว้ ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นเพื่อพิจารณา ส่งเรื่องไปยังท้องที่ที่อยู่ในเขตอำนาจการสอบสวน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น นายไชยยศ ยืนยัน ว่า ตนยืนยันไม่ได้ใหญ่โตมาจากไหน ภาพและคลิปที่ทุกคนได้เห็นคือการที่ตนทำเพื่อช่วยเหลือสังคม แต่กลับถูกรังแกทำร้าย สำหรับเรื่องคดีบุตรชาย ตนก็ไม่เคยใช้อิทธิพลใดๆ ไปก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่ตนเคยเตะผู้ต้องหาคดีเมายาบ้าฆ่าพ่อตัวเอง ตนยอมรับว่าทำจริง เพราะทนไม่ไหวเนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ในสภาพไม่ปกติ เคยทำร้ายแม่ตัวเอง ติดคุกออกมาก็ก่อเหตุฆ่าพ่อตัวเองอีก ตนในฐานะ ชรบ.หมู่บ้าน ตั้งใจทำงานและมีผลงานการจับกุมคดียาเสพติด อยากให้ลองไปย้อนประวัติดูกัน คลิปต่างๆที่ กัน จอมพลัง นำมาตัดต่อดัดแปลงเสนอในเพจให้ตนได้รับความเสียหาย ล้วนแต่เป็นคลิปจาก Facebook ส่วนตัวของตน ซึ่งตนไม่เคยปิดกั้น แต่ กัน จอมพลังอ้างว่ามีชาวบ้านส่งไปให้ หาก กัน จอมพลัง จริงใจ ในการที่จะช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่มีการเมืองเข้ามาแอบแฝง ก็อยากให้รับฟังทุกมุมทุกเรื่อง ตนไม่เคยใช้อิทธิพล ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ไม่เคยทำ Content สร้างราคาให้ตนเอง หาก กัน จอมพลัง เห็นว่าตนสวมเครื่องแบบ ชรบ. ไปเตะผู้ต้องหาเมายาฆ่าพ่อตัวเอง แล้วไม่พอใจตนจะลาออกจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ชรบ.ก็ได้ แต่อยากให้ กัน จอมพลัง นำคลิปเต็มที่แท้จริง คลิปที่ไม่ได้ถูกตัดต่อมาลงเพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ ข้อเท็จจริงทั้งหมดเสียก่อน เพราะในคลิปเต็มๆ นั้นมีชาวบ้านที่ให้การสนับสนุนการกระทำของตนอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews