เจ้าบ่าวพังงานแต่งทันที โมโห แม่โดนครอบครอบเจ้าสาวเหยียด ไล่กลับบ้านนอก

12 พฤศจิกายน 2565

เจ้าบ่าวพังงานแต่งทันที โมโห แม่ไม่ได้นั่งโต๊ะประธาน โดนครอบครอบเจ้าสาวเหยียด ไล่กลับบ้านนอก ตาสว่างก็วันนี้

จากกรณีสื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องราวของ หนุ่มชนบทรายหนึ่ง ในประเทศจีนที่คุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่ที่เขายังเล็ก และแม่ก็เป็นคนเลี้ยงดูเขามาแต่ลำพัง กระทั่งชายหนุ่มได้พบรักกับสาวสวยจากในเมือง ซึ่งคุณพ่อของฝ่ายหญิงเป็นถึงปลัดอำเภอ แม้ว่าครอบครัวของฝ่ายชายจะยากจน แต่ครอบครัวของแฟนสาวก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เมื่อรักสุกงอมทั้งคู่ตกลงปลงใจแต่งงานกัน ซึ่งงานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างหรูหรา แต่กลับมีเรื่องอลเวงชุลมุนสุดๆ ขึ้นมา

เจ้าบ่าวพังงานแต่งทันที โมโห แม่โดนครอบครอบเจ้าสาวเหยียด ไล่กลับบ้านนอก

 

โดยทางครอบครัวของฝ่ายหญิงก็อาสาเป็นเจ้าภาพจัดงาน เป็นฝ่ายหาสินสอดทองหมั้น รวมทั้งยังให้บ้านและรถเป็นของขวัญแต่งงานกับทั้งคู่ด้วย ซึ่งในวันแต่งงาน มีคนใหญ่คนโตมาร่วมงานแต่งงานเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเพื่อนๆ และคนดังจากรายการวิทยุ ซึ่งงานแต่งงานครั้งนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ และทางคุณแม่ของเจ้าสาวก็เป็นคนจัดการว่า จะให้แขกคนไหนนั่งกับใคร


หลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปยืนรอต้อนรับแขกตรงประตู ทั้งคู่ก็เข้ามาร่วมงานและนั่งที่โต๊ะประธานซึ่งเป็นโต๊ะใหญ่ มีคุณพ่อ คุณแม่ และปู่ย่าตายายของฝ่ายหญิง รวมไปถึงพ่อสื่อแม่ชัก ที่นั่งด้วยกันที่โต๊ะนี้ แต่ไม่เห็นแม่ของเจ้าบ่าว นั่นทำให้ฝ่ายชายสับสนมากเพราะแม่เขามางานตั้งแต่เช้า และคิดว่าน่าจะถึงแล้ว 


เจ้าบ่าวจึงได้เอ่ยปากถามเจ้าสาวของเขาว่าแม่ไปไหน ซึ่งทางคุณแม่เจ้าสาวเลยบอกว่า "คุณแม่มาแล้วจ้า ตอนนี้คุณแม่นั่งกับญาติๆ ของเธอยังไง" พร้อมกับที่ชี้ไปที่อีกโต๊ะที่ไม่ไกลออกไป เป็นเส้นนำสายตาของเขา เจ้าบ่าวจึงมองไปที่โต๊ะนั้น และเห็นว่าที่โต๊ะนั้นมีคนนั่ง 8 คน ทุกคนเป็นญาติทางฝั่งเจ้าบ่าวทั้งหมด 

เจ้าบ่าวพังงานแต่งทันที โมโห แม่โดนครอบครอบเจ้าสาวเหยียด ไล่กลับบ้านนอก
 

และคุณแม่ของเขาก็นั่งหน้าจ๋อย อีกทั้งญาติๆ หลายคนก็เหมือนไม่ได้สนุกกับงาน ต่างก้มหน้าก้มตากันใหญ่ ทำให้เจ้าบ่าวลุกไปเชิญแม่มานั่งที่โต๊ะใหญ่ด้วยกัน แต่แม่ของเขากลับปฏิเสธ และบอกว่าแม่จะนั่งกับญาติๆ แทน ให้ลูกไปนั่งที่โต๊ะประธานเถอะ แต่เจ้าบ่าวก็ยืนยันว่าไม่ได้ เพราะแม่เขามีความสำคัญกับงาน จะมานั่งที่โต๊ะเล็กได้อย่างไร 


จนแม่ยอมบอกว่า คุณแม่ของฝ่ายหญิงบอกว่า โต๊ะใหญ่มีที่ไม่พอ ให้แยกไปนั่งกับญาติๆ แทน นั่นทำให้ความโกรธของเจ้าบ่าวปะทุขึ้นมาถึงขีดสุด เขาโกรธมาก จูงมือแม่ตัวเองไปถามแม่ของเจ้าสาวว่า ทำไมถึงให้แม่ของเขาไปนั่งรวมที่โต๊ะเล็ก แม่คือแม่ แม่ต้องนั่งโต๊ะใหญ่ แต่แม่ของฝ่ายหญิงบอกว่า โต๊ะใหญ่นั่งได้แค่ 8 คนเท่านั้น ไม่เหลือเก้าอี้ว่างแล้ว และญาติของเจ้าบ่าวก็มี 7 คนเท่านั้น ให้แม่ของเขานั่งที่โต๊ะเล็กเถอะ

  เมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็ยิ่งโมโหมากขึ้นอีก และบอกว่า "นี่แม่ของผมนะ จะให้แม่ผมนั่งตรงไหนถ้าไม่ใช่โต๊ะประธาน หัดเคารพกันบ้างได้ไหม" พอเจ้าบ่าวในงานตะโกนแบบนั้น ก็ทำเอาพ่อของเจ้าสาวโมโหและด่าว่าที่ลูกเขยว่า "แกคิดว่าแกเป็นใครถึงกล้ามาขึ้นเสียงใส่เมียฉัน ให้แม่แกนั่งกับญาติๆ จากบ้านนอกก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ อยากให้แม่แกนั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะหรือยังไง!!!!"

เจ้าบ่าวพังงานแต่งทันที โมโห แม่โดนครอบครอบเจ้าสาวเหยียด ไล่กลับบ้านนอก

 ทำเอาเจ้าบ่าวมองไปที่ว่าที่ภรรยา เพราะอยากให้เธอช่วยพูด แต่กลายเป็นว่าฝ่ายหญิงยืนขึ้นและชี้หน้าด่าเขากลับว่า "คุณต้องจำไว้ด้วยนะว่าแกเป็นใคร โชคดีแค่ไหนที่ได้มาเป็นครอบครัวเดียวกันกับเรา แต่ละโต๊ะนั่งกันได้แค่ 8 คน คุณอยากจะให้พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และพ่อสื่อแม่ชักหลีกทางให้แม่คุณเหรอ แม่ของคุณก็นั่งกับญาติๆ แล้วไง ยังไม่พอใจอะไรอีก โต๊ะนี้มีแต่คนสำคัญ ใครจะอยากนั่งกับคนบ้านนอก"


งานนี้ทำเอาเจ้าบ่าวโมโหจัด ล้มโต๊ะประธาน และทำลายดอกไม้ในพิธี ก่อนออกไปจากงานพร้อมกับแม่ และสุดท้าย งานแต่งงานก็ล่ม ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่ได้แต่งงานกัน ซึ่งเมื่อคนในหมู่บ้านได้ข่าว ก็บอกว่าฝ่ายชายโง่เอง แทนที่จะอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในขณะที่บางคนก็บอกว่าเจ้าบ่าวฉลาดแล้ว ถ้าครอบครัวเจ้าสาวไม่ได้มองว่า ลูกเขยเท่าเทียมกับพวกเขาตั้งแต่ต้น มองว่าเขาเป็นคนบ้านนอก ถ้าแต่งงานเข้าไป ก็อาจทำให้ฐานะของเขาในบ้านหลังนั้นไม่ต่างจากสุนัขตัวหนึ่ง

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews