สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ให้บริการกล่องไอพีทีวีหลายรายมีความกังวลอย่างมาก กระทั่งอ้างกฏ Must Carry และดำเนินการแพร่ภาพสัญญาณ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 หรือ World Cup Qatar 2022 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิในลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งกล่องรับสัญญาณบริษัทดังจึงถูกตัดสิน สั่งระงับถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กระทบถึงโอกาสในการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) ในประเทศไทย
ภาพจาก fifa world cup
โดยรายงานระบุว่า กลุ่มทรูในฐานะผู้ได้รับสิทธิในการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลกแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในระบบ IPTV และระบบ OTT ได้ดำเนินการปกป้องสิทธิตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาโดยยื่นฟ้องผู้ให้บริการทีวีอินเตอร์เน็ตรายหนึ่งที่ให้บริการผ่านกล่อง AIS PLAYBOX ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการชั่วคราว
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ได้มีคำสั่งห้ามบริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด (SBN) ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX แพร่เสียงและแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลก2022 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ อันเป็นการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มทรูในฐานะผู้ได้รับสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
จากมาตรการคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว กลุ่มทรู จึงขอแจ้งผู้ให้บริการโทรทัศน์ในระบบ IPTVและระบบ OTT ที่ไม่ได้ - รับอนุญาตให้ใช้สิทธิอย่างถูกต้องทั้งหมดระงับการแพร่เสียงและแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในทันที ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกับคำสั่งศาลดังกล่าวและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการละเมิดสิทธิ์ตามกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญาต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ในครั้งนี้ กลุ่มทรูชี้แจงว่าจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิในการรับชมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของประชาชนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม คนไทยยังคงสามารถรับ ชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก2022 ผ่านการให้บริการโทรทัศน์เป็นการทั่วไป (ฟรีทีวี) ได้ตามปกติ รวมทั้งยังสามารถรับชมการแข่งขันได้ทุกแมตช์ผ่านผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก(Pay TV)ในระบบเคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียมที่ผ่านการเข้ารหัสสัญญาณตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว
ภาพจาก fifa world cup
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews