เรียกได้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้กลับมาเป็นประเด็นที่ประชาชนจับมองอีกครั้ง เนื่องจากแพทย์หลายคนออกมาเตือนว่าตอนนี้โควิดอยู่ในช่วงขาขึ้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา หมอธีระ หรือ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน โดยระบุว่า
อัพเดตความรู้โควิด-19
Puhach O และคณะ จากมหาวิทยาลัยเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทำการทบทวนความรู้วิชาการในปัจจุบันเกี่ยวกับธรรมชาติของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์ Nature Reviews Microbiology เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
สาระสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับการแพร่เชื้อของโควิด-19 คือ "ระยะฟักตัว" หลังจากติดเชื้อ จนกระทั่งเริ่มเกิดอาการ มักใช้เวลาราว 4.6-6.4 วัน
ระยะเวลาป่วย/มีอาการ : โดยเฉลี่ยแล้วอาจมีอาการป่วยนานไปได้ถึงราว 10 วัน
ช่วงที่จะเสี่ยงแพร่เชื้อให้ผู้อื่น : ผู้ที่ติดเชื้อ แม้จะยังไม่ได้เริ่มมีอาการ แต่ตรวจพบปริมาณไวรัสสูง และสามารถแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่นได้ตั้งแต่ประมาณ 3 วันก่อนป่วย (pre-symptomatic transmission) ทั้งนี้ไวรัสจะมีปริมาณสูงสุดช่วงเริ่มมีอาการ และพบว่าสามารถตรวจพบไวรัสที่สามารถแพร่แก่ผู้อื่นได้นานไปจนถึง 8-10 วันหลังจากที่เริ่มมีอาการป่วย
ประโยชน์ของ ATK หรือ rapid antigen test
แม้ ATK จะมีความไวต่ำกว่าวิธี RT-PCR ค่อนข้างมาก แต่ผลการศึกษาวิจัยชี้ให้เห็นว่ามีประโยชน์ในการใช้ประเมินสถานะของผู้ป่วยในการแพร่เชื้อแก่ผู้อื่น (infectiousness) ATK หรือ rapid antigen test มักมีสมรรถนะในการตรวจได้ผลบวก เมื่อปริมาณไวรัสสูงกว่า RT-PCR โดย ATK ตรวจได้ผลบวกเมื่อปริมาณไวรัสราว 10^4 -10^6 copies/ml ในขณะที่ RT-PCR ตรวจได้ผลบวก แม้มีไวรัสเพียง 10^2- 10^3 copies/ml
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ผู้ที่ติดเชื้อแล้วมีปริมาณไวรัสสูงราว 10^6 นั้น เทียบได้พอๆ กับการตรวจ RT-PCR ได้ค่า Ct ประมาณ 25 ซึ่งถือว่ามีโอกาสแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ ดังนั้น การใช้ ATK เพื่อช่วยตรวจประเมินสถานะของผู้ป่วยว่ายังมีผลบวกหรือไม่นั้น ก็ย่อมมีประโยชน์สำหรับประเมินความพร้อมในการออกจากช่วงเวลาแยกตัว (exit strategy) จึงเป็นที่ส่วนตัวแล้วแนะนำมาตลอดว่า "หากติดเชื้อ ควรแยกตัวจากผู้อื่นอย่างน้อย 7-10 วัน จนแน่ใจว่าอาการดีขึ้น ไม่มีไข้ และตรวจ ATK อีกครั้งได้ผลลบ" ก่อนจะออกไปใช้ชีวิตพร้อมป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดไปจนครบสองสัปดาห์
สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เลี่ยงการกินดื่มใกล้ชิดร่วมกับผู้อื่นนอกบ้าน เลี่ยงสถานที่แออัด ระบายอากาศไม่ดีเลือกร้านอาหาร สถานที่บริการ ที่มีพนักงานป้องกันตัวโดยใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ล้างมือเสมอ เวลาจับต้องสิ่งของสาธารณะไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบตามกำหนด เพื่อลดโอกาสป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID
สำคัญที่สุดคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ เวลาออกไปชีวิตประจำวัน จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก ไม่ควรหลงเชื่อคำลวงด้วยกิเลส หรือความเชื่องมงายที่ไร้สาระ และไม่อยู่บนฐานความรู้วิชาการที่ถูกต้องพิสูจน์ได้ ป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ให้ติดซ้ำย่อมดีที่สุด
ขอบคุณ Thira Woratanarat
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews