เรียกได้ว่าเป็นประเด็นข่าวใหญ่ เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี “ตู้ห่าว” นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนจีนสีเทา ได้เรียกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ รวม 26 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมภายในผับจินหลิง ย่านยานนาวา พร้อมกับได้เชิญ พัชรินทร์ ที่มีข้อมูลว่า เป็นนอมินีของ "ตู้ห่าว" มาให้ปากคำ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว หลังจากปรากฎมีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท โดยมี "ตู้ห่าว เป็นประธานกรรมการ รวมถึงประเด็นที่มาของทรัพย์สินและเส้นทางการเงิน ธุรกิจต่าง ๆ
โดยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.65 พัชรินทร์ พร้อมทนายได้เดินทางมาให้ปากคำ และหลังให้ปากคำนานกว่า 8 ชั่วโมง นางสาวพัชรินทร์และนางสาวหลินได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน มีสีหน้าเคร่งเครียดและปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและเดินขึ้นรถไป มีเพียง นายทวีศักดิ์ บุญธรรม ทนายความ ที่ออกมาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว
โดยระบุว่าการสอบปากคำในวันนี้เป็นการให้ข้อมูลเรื่องเส้นทางการเงินและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ในฐานะผู้ถือหุ้นและกรรมผู้มีอำนาจในโรงแรม ซึ่งได้ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่าโรงแรมดีวาลักซ์ก่อตั้งถูกต้องตามกฏหมาย โดยกู้เงินมาจากธนาคาร 500 ล้านบาท ส่วนที่ดินตั้งโรงแรมเป็นของแม่
ส่วนความสัมพันธ์ของนางสาวพัชรินทร์และตู้ห่าวเป็นเพียงผู้ร่วมธุรกิจกันเท่านั้น ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวเหมือนที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนางสาวพัชรินทร์รู้จักกับตู้ห่าวมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพราะตู้ห่าวทำธุรกิจทัวร์ ส่วนนางสาวพัชรินทร์ทำธุรกิจโรงแรม จึงต้องมีการประสานงานกันตลอด
และที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่านางสาวพัชรินทร์พยายามหลบหนีที่จะมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ ทนายความยืนยันว่าไม่เป็นความจริง นางสาวพัชรินทร์ไม่คิดที่จะหลบหนี ยังใช้ชีวิตตามปกติและพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจ หลังให้ปากคำพนักงานสอบสวนยังไม่มีการนัดหมายสอบปากคำประเด็นอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ tnews