จากรณีที่ภาพถูกแชร์กันในโซเชียลเพจเฟซบุ๊กหนึ่งเปิดขายแบงค์ปลอม ล่าสุดทางด้าน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้ออกมาเตือนถึงเรื่องนี้ ระบุว่า พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ผบก.ปอศ.) สั่งการให้ กก.4 บก.ปอศ. ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า ภาพเงินดังกล่าวเป็นภาพจากข่าวการจับกุมของ จนท.ตร. ปส. เมื่อปี 2564 ไม่ใช่เงินที่มีการผลิตหรือปลอมขึ้นเพื่อจำหน่ายจริง เป็นกลุ่มมิจฉาชีพ นำภาพมาประกอบการหลอกลวงพี่น้องประชาชนให้หลงเชื่อโอนเงิน เพื่อซื้อธนบัตรปลอม ซึ่งเมื่อได้รับเงินก็จะปิดเพจหลบหนีไป
ขอเตือนว่า อย่าหลงเชื่อ สั่งซื้อธนบัตร โดยเฉพาะที่มีการนำรูปธนบัตรเงินสด แชทพูดคุย การโอนเงินหรือรับสินค้า ในสื่อออนไลน์ทุกประเภท กรณีหาก
1. เป็นการนำภาพมาหลองลวง และเสนอจำหน่ายออนไลน์ ผู้โพสท์จะมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. หากเป็นการปลอมธนบัตรและมีการสั่งซื้อมาใช้ ผู้ผลิตเสนอจำหน่ายจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 ผู้ทำการปลอมเงินตราซึ่งรัฐบาลออกใช้ ต้องรับวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท
ส่วนผู้ซื้อมาใช้จะมีความผิดฐานมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามแสนบาท แต่หากขณะได้รับมาไม่รู้ว่าเป็นธนบัตรปลอม ต่อมาทราบในภายหลังว่าเป็นธนบัตรปลอมแล้วยังขืนนำออกใช้ จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 245 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews