โคราช พบผู้ติดเชื้อโควิด เสียชีวิต 6 ราย ก่อนตรวจพบประวัติน่าตกใจ

12 ธันวาคม 2565

โคราช 24 ชั่วโมง พบผู้ติดเชื้อโควิด เสียชีวิตจำนวน 6 ราย เมื่อตรวจสอบประวัติ จึงเร่งรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนด่วน!!

เรียกได้ว่าสถานการณ์การโควิด กลับมาสร้างความวิตกกังวลให้อีกครั้ง หวั่นใจว่าโควิดจะกลับมาระบาดใหญ่อีกครั้งจริงหรือไม่ เมื่อเพจโคราช 24 ชั่วโมง พบผู้ติดเชื้อโควิด เสียชีวิต 6 ราย ตรวจสอบประวัติน่าตกใจ ซึ่งประเทศไทย ปัจจุบันยังมีจุดให้บริการฉีดวัคซีนโควิดกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ที่จุดบริการฉีดวัคซีน ชั้น 4 เซ็นทรัลนครราชสีมา โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยังคงเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างต่อเนื่อง

 

โคราช พบผู้ติดเชื้อโควิด เสียชีวิต 6 ราย ก่อนพบประวัติน่าตกใจ

ทางจังหวัดเร่งรณรงค์ให้ชาวจังหวัดนครราชสีมา เข้ารับวัคซีนป้องกันโควิดเข็มกระตุ้นห้ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนมาขอเข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างต่อเนื่อง 


โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเด็ก และกลุ่มเสี่ยง 608 ซึ่งมีความเสี่ยงจะมีอาการป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิต ผู้เข้ามารับบริการฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ลูกหลานพามารับวัคซีนป้องกันโควิด โดยในช่วงเช้ามีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาส้มให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 5-11 ปี จำนวน 300 โดส ส่วนในช่วงบ่ายเป็นการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาม่วงให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 600 โดส

โคราช พบผู้ติดเชื้อโควิด เสียชีวิต 6 ราย ก่อนพบประวัติน่าตกใจ
ขณะเดียวกัน นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ว่า ขณะนี้ยอดผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมีภาวะปอดอักเสบเสียชีวิตต่อวันประมาณ 2 ราย แต่ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา (11 ธ.ค.65) มี


จำนวนผู้เสียชีวิต 6 ราย ประกอบด้วย 
1. ชายอายุ 54 ปี ฉีดวัคซีน 2 เข็ม 
2. ชายอายุ 84 ปี ไม่ได้ฉีดวัคซีน 
3. ชาย 61 ปี ไม่ได้ฉีดวัคซีน 
4. หญิงอายุ 89 ปี ไม่ได้ฉีดวัคซีน 
5. หญิงอายุ 83 ปี ไม่ได้ฉีดวัคซีน
6. ชายอายุ 43 ปี ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็ม

 

ทั้งนี้ นพ.เจษฎ์ ยังกล่าวต่อว่า ยังมีผู้ป่วยโควิดเป็นเด็กมากขึ้น ตรวจสอบประวัติทั้งเด็กและกลุ่ม 608 ที่ป่วยและเสียชีวิต ส่วนใหญ่ไม่เคยฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนมานาน บางรายฉีด 2 เข็ม และมีระยะห่างกว่า 8 เดือน 

โคราช พบผู้ติดเชื้อโควิด เสียชีวิต 6 ราย ก่อนพบประวัติน่าตกใจ

จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันควรมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด เพื่อป้องกันเชื้อลุกลามลงปอด และป้องกันภาวะโรคอื่นแทรกซ้อนทำให้เสียชีวิต อีกทั้งใกล้เทศกาลปีใหม่จะมีลูกหลาน ญาติพี่น้องเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน อาจนำเชื้อมาฝากอีกเหมือนช่วงเทศกาลสำคัญทุกปี


ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews