สืบเนื่องจากกรณี เรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย ซึ่งพลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้า 'เรือหลวงสุโขทัย' ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่ม ไล่ไทม์ไลน์จมทะเล โฆษก ทร. ตอบปมกำลังพลเสียชีวิต
ในขณะเกิดเหตุบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วน ไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับ ส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง
ในเวลาต่อมา กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบ และอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง , เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช , เรือหลวงกระบุรี , เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อม ชุดป้องกันความเสียหาย และกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ
โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง ต่อมา เรือหลวงสุโขทัย มีอาการเอียงมากขึ้น และได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น.
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี , เรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล
ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ
ทั้งนี้ เรือต่างๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย , เรือลากจูง จำนวน 4 นาย , เรือน้ำมัน "ศรีวิชัย" จำนวน 20 นาย , เรือน้ำมัน "STRAITS ENERGY" จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป
โฆษก ทร.กล่าวอีกว่า เรือหลวงกระบุรี , เรือลากจูง และเรือน้ำมัน "ศรีไชยา" ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรีได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับ เรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป
กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการ ได้ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038182435 และ 0840023554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว จำนวน 75 นาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวกำลังพล เสียชีวิต 3 นาย พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews