สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ ชุดสืบนครบาล IDMB ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้รับแจ้งให้ช่วยจับกุม แขกออเงินในคดีข่มขื่นกระทำชำเราแฟนรุ่นน้องหลังจัดงานเลี้ยงกลุ่มเพื่อน
โดย "แขกออเงิน" ผู้ต้องหาแสดงตัวเป็นสุภาพบุรุษอาสาไปส่งหญิงรุ่นน้องที่มึนเมา แต่กลับเปลี่ยนเป็นเดนมนุษย์พาเข้ารีสอร์ทย่านคลองสามวา และได้ทำการล่วงละเมิดทางเพศ
โดยวันที่ 20 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายณัฐพนธ์ หรือ แขกออเงิน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.5 ต.โคกมั่งงอย อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1345/2565 ลงวันที่ 7 ธ.ค. 65 โดยกล่าวหาว่า “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ สุขาภิบาล 5 ซอย 51 แขวงออเงิน เขตสายไหม จ.กรุงเทพฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 64 นายณัฐพนธ์ หรือแขกออเงิน และเพื่อนอีกหลายคนได้มีงานเลี้ยงในบ้านพักย่านคลองสามวา ซึ่งต่อมาเพื่อนคนสนิทคนหนึ่งของ นายณัฐพนธ์ฯ ซึ่งอยู่ในวงเหล้าได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับแฟนสาว ซึ่งก็คือ น.ส.ก (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ ซึ่งทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรงกระทั่งถึงจุดแตกหักฝ่ายชายซึ่งเป็นเพื่อนของ นายณัฐพนธ์ฯ ได้ขับรถออกไปคนเดียว
โดยทิ้ง น.ส.ก.นั่งร้องไห้เสียใจในงานเลี้ยงหลังจากนั้น นายณัฐพนธ์ฯ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฝ่ายชายอาศัยจังหวะปลอบประโลมกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. น.ส.ก. เกิดอาการมึนเมาไม่ได้สติ นายณัฐพนธ์ฯ จึงได้อาสาเพื่อขับรถพาไปส่ง น.ส.ก. ซึ่งระหว่างทาง นายณัฐพนธ์ฯ ไม่ได้พาไปส่งที่บ้านกลับพาเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด ย่านคลองสามวา
ก่อนลงมือข่มขืน น.ส.ก.ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาและไม่ได้สติ กระทั่งรุ่งเช้า น.ส.ก.ได้ตื่นมาพบว่าตนเองมิได้อยู่บ้านแต่กลับนอนอยู่กับ นายณัฐพนธ์ฯ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแฟนตนเอง ในสภาพไม่ได้สวมเสื้อผ้า หลังเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.ก. จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายณัฐพนธ์ฯ ที่ สน.คันนายาว ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งได้ขออนุมัติศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับ นายณัฐพนธ์ฯ ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ 1345/2565 ลงวันที่ 7 ธ.ค. 65
ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามซึ่งได้สืบทราบว่า นายณัฐพนธ์ฯ เป็นช่างสัก เปิดร้านรับสักลายอยู่ละแวก แขวงออเงิน เขตสายไหม จ.กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ธนากรฯ
จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้ทำการจับกุมตัว นายณัฐพนธ์ฯ ได้ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ สุขาภิบาล 5 ซอย 51 แขวงออเงิน เขตสายไหม จ.กรุงเทพฯ โดยขณะจับกุมตัว นายณัฐพนธ์ฯ แสร้งหลอกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่าตนเองมิใช่ นายณัฐพนธ์ฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม แต่ไม่สามารถตบตาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เนื่องจาก ชุดจับกุมได้ตรวจสอบรอยสักบนตัวของ นายณัฐพนธ์ฯ จึงยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายณัฐพนธ์ หรือแขกออเงิน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า น.ส.ก เป็นแฟนของเพื่อนคนสนิทตนเองที่คบกันมาหลายปี โดยในวันเกิดเหตุตนได้อาสาพา น.ส.ก.ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อไปส่งบ้านละแวกฝั่งธนบุรี แต่ระยะทางไกลเกินไปจึงแวะพักโรงแรมม่านรูดย่านคลองสามวา และอ้างว่าฝ่ายหญิงเป็นผู้จ่ายค่าห้องโรงแรมส่วนตนเองนั้นนั่งสูบบุหรี่อยู่
ซึ่งหลังเปิดห้อง น.ส.ก ไม่ได้สติตนเองจึงลงมือถอดกางเกงและข่มขืน แต่ระหว่างลงมือได้เกิดความรู้สึกผิด จึงไม่ได้ลงมือต่อ แต่นอนอยู่บนเตียงเดียวกันจนถึงกระทั่งรุ่งเช้า ซึ่งหลังเหตุการณ์ดังกล่าวประมาณ 2 วัน เพื่อนสนิทของตนนั้นได้พา น.ส.ก ไปแจ้งความที่ สน.คันนายาว ซึ่งหลังจากนั้นตนเองได้จ่ายค่าเสียหายไปให้ น.ส.ก. เป็นเงินจำนวน 150,000 บาท แล้ว โดยอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นเพราะอาการเมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ติดตามข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ Tnews