สืบเนื่องจากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ ออกหมายเรียกผู้บริหาร"กองสลากพลัส" ให้เข้าให้ปากคำ เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มขบวนการฟอกเงินรายสำคัญที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ มีการเบิกถอนเงินสดและนำไปเข้าบัญชีให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย เเละหนึ่งในนั้นที่ปรากฎหลักฐาน คือผู้บริหารกองสลากพลัส ซึ่งเป็นผู้รับเงินจำนวนหลายสิบล้านบาทจากขบวนการฟอกเงิน
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 6 ม.ค. 66 นอท กองสลากพลัส ได้มอบหมายให้ทนายความส่วนตัว เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับหมายเรียกดังกล่าว ซึ่งก็มีทาง นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางมาพบและพูดคุยกับทนายความของกองสลากพลัส
โดย นายไตรยฤทธิ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบทนายความของนายพันธ์ธวัช ว่า เบื้องต้นในวันนี้(6ม.ค.66) ทนายความของนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส เข้ามารับทราบข้อมูลกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้เขาได้รับความเป็นธรรม สามารถกลับไปเตรียมตัว เตรียมเอกสารเพื่อรอเข้าให้การในฐานะพยานในวันที่ 13 ม.ค.นี้ได้
เบื้องต้นดีเอสไอมีข้อมูลพยานหลักฐานในการออกหมายเรียก เพราะจากการขยายผลเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.64 พบว่าหนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญในขบวนการฟอกเงิน ซึ่งเกี่ยวกับยาเสพติด การพนันออนไลน์ที่ดีเอสไอได้จับกุมไปในข้อหา "ร่วมกันฟอกเงิน" จากความผิดมูลฐานการพนันออนไลน์
ซึ่งดีเอสไอ ตรวจพบว่ามีการโอนเงินหลาย10ล้านบาทเข้าบัญชีธนาคารของ"นอท กองสลากพลัส" โดยตรง ซึ่งเป็นเงินสีเทา อย่างไรก็ตาม ขบวนการดังกล่าวมิได้โอนเงินเข้าบัญชี นายพันธ์ธวัชอย่างเดียว แต่มีการโอนเงินเข้าธุรกิจอื่นๆด้วย
อธิบดีDSI เผยอีกว่า การออกหมายเรียกในสถานะพยานนั้น นอกเหนือจากนายพันธ์ธวัช หรือ นอท กองสลากพลัส แล้ว ยังมีกลุ่มบุคคลอีก 7 รายที่ต้องเข้าให้การในสถานะพยานเช่นเดียวกัน แต่บุคคลเหล่านี้มิได้อยู่ในธุรกิจกองสลากพลัส เพื่อสอบถามถึงความเชื่อมโยงกับนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ แต่ก็ต้องรอสอบปากคำพูดคุยก่อน เพื่อให้ได้รายละเอียดว่าทั้ง 7 รายนี้รู้จักกันอย่างไร เกี่ยวข้องในธุรกิจสลากพลัสหรือไม่อย่างไร ??
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews