จากกรณีที่ ครม. มีมติลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม-ธันวาคม 2565 เพื่อลดภาระนายจ้าง และเพิ่มสภาพคล่องผู้ประกันตน ล่าสุดถึงกำหนดที่ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบในอัตราเต็ม ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยรายละเอียดอัตราสมทบสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 มีดังนี้
ผู้ประกันตนมาตรา 33
- นายจ้างและลูกจ้าง จ่ายฝ่ายละ 5% หากใครมีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป ต้องจ่ายเงินสมทบ 750 บาทต่อเดือน
- เมื่อรวมเงินสมทบประกันสังคมที่จ่ายทั้งหมดตลอด 12 เดือนในปี 2565 ในกรณีผู้ที่มีเงินเดือนมากกว่า 15,000 บาท เท่ากับว่าปี 2565 ได้จ่ายเงินสมทบรวมทั้งหมด 6,300 บาท (จากเดิม 9,000 บาท) เพราะมีการปรับลดอัตราเงินสมทบมาตรา 33 ในเดือน พ.ค. - ก.ค. และเดือน ต.ค. - ธ.ค. 65
ผู้ประกันตนมาตรา 39
- ส่งเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 39 เป็นจำนวน 432 บาท
- เมื่อรวมจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนมาตรา 39 นำส่งประกันสังคมตลอดปี 2565 จะเป็นวงเงินทั้งสิ้น 3,585 บาท เพราะมีการปรับลดอัตราเงินสมทบในเดือน พ.ค. - ก.ค. และเดือน ต.ค. - ธ.ค. 65 เช่นเดียวกับผู้ประกันตนมาตรา 33
ประกันตนมาตรา 40
- ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ในอัตรา 70 บาทต่อเดือน
- ทางเลือกที่ 2 จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย และกรณีชราภาพ ในอัตรา 100 บาทต่อเดือน
- ทางเลือกที่ 3 จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ชราภาพ และกรณีสงเคราะห์บุตร ในอัตรา 300 บาทต่อเดือน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews