จากกรณีอุบัติเหตุรถเบนท์ลีย์ซิ่งชนรถบนทางด่วนเฉลิมมหานคร เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา มีประชาชนหลายคนพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคืนวันเกิดเหตุ ว่าทำไมเสี่ยเบนท์ลีย์ไม่ได้เป่าแอลกอฮอล์ แต่เปลี่ยนเป็นการตรวจเลือดแทน เนื่องจากทางด้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาดับเพลิงในที่เกิดเหตุ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คนขับเบนท์ลีย์มีอาการคล้ายคนเมา
ซึ่งล่าสุดทางด้าน เนชั่นออนไลน์ รายงานว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหนังสือคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรถหรูเบนท์ลีย์ พุ่งชนรถผู้อื่นบนทางด่วนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยมีคลิปปรากฏในสื่อทางโซเชียลมีเดียและสื่อหลัก จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ขั้นตอนในการทำงานของตำรวจ
โดย พ.ต.อ.ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 2 ศูนย์ควบคุมจราจร ทางด่วน/ทางพิเศษ กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า เบื้องต้น เป็นเพียงการให้ตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินคดีของเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนปกติ
เมื่อมีคำสั่งให้ตรวจสอบก็มีการจัดตั้งคณะตรวจสอบขึ้นมาพิจารณาว่า ขั้นตอนที่ดำเนินการไป มีขั้นตอนใดที่ผิดไปจากมาตรฐานหรือไม่ หากพบว่า มีขั้นตอนหรือการกระทำใดผิดขั้นตอนมาตรฐาน ก็จะมีการพิจารณาลงโทษพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีอีกครั้ง แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้มีการลงโทษใดๆ
ส่วนผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์จนถึงขณะนี้ ได้รับรายงานจาก รองผู้กำกับการสอบสวน ที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลคดีดังกล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจจากแล็บตรวจสอบของทางโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผลตรวจจะออกมาได้ในช่วงเวลาใด ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ ก็จะนำผลที่ได้จากทางแล็บไปทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม หากพบว่ามีความผิดเกี่ยวกับข้อหาเมาแล้วขับ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews