เนื่องจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นชายหนุ่มรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวว่า อยู่ๆ เงินในบัญชีก่อนถูกโอนออกไป มุกใหม่มิจฉาชีพ แค่ขายสายชาร์จ ดูดเงินเกลี้ยงบัญชีได้ง่ายๆ มีคนหลงกลมิจฉาชีพเข้าแล้วต้องออกมาเตือนภัยกันอย่างด่วน
โดยทางผู้โพสต์เล่าว่า สายชาร์จดูดเงิน จากเหตุที่เกิดเห็นข่าวของหลายๆ คนที่โดนดูดเงินกันว่า กดเข้าลิงก์นี้ลิงก์นั้น ลิงก์ดูดเงินออกจากบัญชี หรือมีเบอร์แปลกๆโทรฯ เข้ามา หรือข้อความแปลกๆ หรือการกดเข้าไปเว็บไซต์อื่นๆ หรือโหลดแอพแปลกๆ คือจะบอกว่า ในกรณีของผมไม่ใช่แบบนั้นแม้แต่นิดเดียว
ไม่มีใครโทรฯ เข้ามาแม้แต่สายเดียว และไม่มีข้อความแปลกๆ เข้ามาแม้แต่ข้อความเดียว และผมไม่ได้กดลิงก์อะไรสักอย่างเดียว เพราะเครื่องนี้ผมใช้เล่นเกม ROV อย่างเดียวเท่านั้น หลักๆ ที่ผมใช่คือเครื่องไอโฟน ผมไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง แค่วางชาร์จแบตไว้เฉยๆ แค่นั้น
ก่อนเงินจะหมดบัญชี โทรศัพท์ค้างหน้าจอดับกดเปิด-ปิดล็อกหน้ายังได้ยินเสียงปกติเลยไม่ได้คิดอะไร เลยกดปิดเครื่องแล้วชาร์จแบตวางไว้เฉยๆ แค่นั้น พอผ่านไปสักพัก มีข้อความทางธนาคารแจ้งว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชี โดยที่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย งงมั้ย! แปลกมั้ย!
"ในกรณีของผมไปแจ้งความ ตำรวจยังงงกันทั้งโรงพัก แม้แต่คอลเซ็นเตอร์ธนาคาร ฝากเตือนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และทุกๆ คน #โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวันๆ #ซวยแต่ต้นปีเลย"
ก่อนที่ หนุ่มคนดังกล่าว จะโพสต์ข้อความอีกว่า จากกรณีของเขา ณ ตอนนี้สามารถลำดับเหตุการณ์ได้ดังนี้
1. จากเงินที่ถูกโอนออกไปจากบัญชีของเรานั้นจำนวน 101,560 บาท ซึ่งเราไม่ได้เป็นคนโอนออกไปให้ใครง่ายๆ ขนาดนั้น ใครเขาจะใจดีโอนเงินออกไปให้คนอื่นตั้งแสนหนึ่ง บ้ารึเปล่า หนึ่งในนั้นไม่ใช่กูละ
2. ปกติจากการโอนเงินทุกครั้งจะมีการบันทึกสลิปเข้าในเครื่องทุกครั้งที่โอนแต่จากการโอนเงินออกจากบัญชีครั้งนี้ ได้มีแค่ข้อความแจ้งว่ามีการโอนออกไปจริง แต่ไม่มีสลิปบันทึกลงในเครื่อง ซึ่งสลิปที่ผมได้มานั้น เป็นการเข้าไปแคปและดาวน์โหลดออกมาเองจากประวัติการโอน
3. ช่วงเวลาที่โอนคือ 11.52 น. ซึ่งในขณะนั้นตัวผมเองไม่ได้จับหรือเล่นมือถือแต่อย่างใด ผมแค่ชาร์จแบตแล้ววางไว้ข้างๆ ซึ่งผมก็นั่งเล่นคอมพ์อยู่ปกติ ไม่ได้ยุ่งอะไรกับมือถือ
4. ตัวผมเองนั้นอยู่คนเดียวและไม่ได้พาใครอื่นมาอยู่ด้วย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะว่าบุคคลอื่นเล่นมือถือผม และผมไม่เคยบอกรหัสบัญชีธนาคารกับใคร (ใครมันจะโง่ไปบอกรหัสบัญชีธนาคารของตนให้กับบุคคลอื่นจริงมั้ย?)
5. ในวันนั้นไม่มีบุคคลใดโทรฯ เข้ามาแม้แต่สายเดียวและไม่มีข้อความแปลกๆ เข้ามา และผมไม่ได้เข้าเว็บอะไรทั้งนั้น เพราะในวันนั้นผมตื่นประมาณ 10 โมงกว่าแล้ว ตื่นมาก็ไม่ได้เล่นมือถือ เพราะทำความสะอาด ซักผ้า ตามปกติของคนอยู่คนเดียว
6. ผมไม่เคยโหลดแอพสรรพกร หรือแอพแปลกๆ แต่อย่างใด แต่ถ้าพูดถึงการกดเข้าลิงก์ ณ วันนั้นผมไม่ได้กดเข้าลิงก์อะไร ตามที่กล่าวไว้ในข้อ 5
7. ผมได้ไปคุยกับธนาคาร และ Call center แม้แต่ ตร.ก็แล้ว ต้องบอกเลยว่าโบ้ยกลับมาหาผมอย่างเดียว แล้วก็บอกว่าคุณไปกดลิงก์เข้าแอพอะไรรึเปล่า ผมก็ตอบว่าไม่ ตามข้อ 5 เลย
8. เมื่อขอข้อมูล IP Address, หรือ Address IMEI ที่เป็นเหมือนบัตรประชาชนของเครื่องโทรศัพท์และขอโลเคชั่นตำแหน่งการเข้าแอพ แต่ ธนาคารตอบว่าไม่สามารถหาได้ ต้องให้หน่วยสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นคนสืบข้อมูล ผมถึงกับสตั๊นต์ คือ ธนาคารเป็นเจ้าของระบบดูแลทุกอย่างไม่ใช่รึ? น่าจะมีข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างแล้ว
9. ผมได้แจ้งความให้ทาง ธนาคารเป็นคนตรวจสอบเช็กธุรกรรม หรือ statement ของปลายทางแล้ว ธนาคารแจ้งว่าต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน ไม่รวม ส-อา แล้วจะเอาผลส่งให้ทาง ตร.ดำเนินคดีต่อ
ณ วันนี้เรายังไม่รู้ชะตากรรมว่าแบงก์จะตอบหรือว่าจะรับผิดชอบหรือไม่ หรือยังไง หากใครมีคำแนะนำว่าจะสู้หรือจะรับมือกับแบงก์ต่อยังไงหากไม่รับผิดชอบ แนะนำได้นะครับ ผมยินดี หรือทนายท่านไหนเก่งๆ ผมอยากได้คำปรึกษาครับ" พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่า "ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้มา"
ขณะเดียวกัน ด้านเพจ Drama-addict ได้เผยเปิดเผยภาพที่บอกว่าแฮกเกอร์ได้ดัดแปลงแล้ว ซึ่งมีรายละเอียดว่า นี่คือสายชาร์จไอโฟน ที่ทีมแฮกเกอร์ดัดแปลงข้างในให้สามารถดูดข้อมูลจากเครื่องเหยื่อได้ สมมติมีคนใช้สายนี้เสียบชาร์จ ก็จะสามารถดูดข้อมูลในเครื่องนั้นได้ โดยตัวสายมันจะมีอุปกรณ์ในการดักจับข้อมูล
"ถ้าเหยื่อพิมพ์ข้อมูล รหัสผ่าน อะไรพวกนี้ มันก็จะถูกส่งข้อมูลผ่านระบบไร้สายไปเข้าคอมพ์ของมิจฉาชีพได้ ในภาพเป็นเวอร์ชันปี 2019 ตอนนี้ผ่านมาสามสี่ปี มีรุ่นใหม่ๆ ออกมาขายหลายชนิด มีแบบ usb-c ด้วย และวิธีการก็แนบเนียนขึ้น
ดังนั้นฝากพ่อแม่พี่น้อง ตอนนี้มิจฉาชีพมาทุกรูปแบบ และไอ้สายชาร์จของมิจฉาชีพนี่ก็มีขายทั่วไปในท้องตลาด หน้าตาภายนอกแยกจากสายชาร์จไม่ออก ดังนั้นเวลาจะชาร์จมือถือ ใช้สายใครสายมัน อย่ายืมสายคนแปลกหน้ามาใช้"
อีกทั้งทางเพจยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า "มีคนแย้งว่าประเด็นสายเคเบิ้ล สายชาร์จที่ว่า ต้องต่ออุปกรณ์อื่นอันใหญ่ๆ ถึงจะขโมยข้อมูลได้ ถ้าแค่สายเพียวๆทำไม่ได้ อันนั้นรุ่นเก่าครับ รุ่นใหม่ๆ นี่ มันใส่ตัวส่งข้อมูลมาในสายชาร์จละ ตามภาพข้างล่าง
ถ้าไม่เชื่อลองดูคลิปการสาธิตการใช้งานได้ เขาไม่เสียบกับอะไรเลย เสียบข้างนึงเข้ากับไอโฟน มือถือแอนดรอยด์ อีกข้างปล่อยไว้โล่งๆแบบนั้นแหละ และทำได้มากกว่าการขโมยข้อมูลเยอะ อยากรู้ว่าทำไรได้มั้งลองดูในคลิปกัน"
ข้อมูลจาก Drama-addict
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews