วันตรุษจีน 2566 ในปีนี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน ชาวไทยเชื้อสายจีนจะมีการไหว้เทพเจ้า ไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ด้วยอาหารมงคล ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตต้อนรับศักราชใหม่
ทั้งนี้ ชาวไทยเชื้อสายจีนจะถือประเพณีปฏิบัติอยู่ 3 วัน คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว ซึ่งมีวันต่างๆดังนี้
- วันจ่าย ตรงกับ วันที่ 20 มกราคม 2566 หมายถึง วันที่จะต้องไปจับจ่ายซื้อหา อาหาร ผลไม้ และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ เพื่อเตรียมใช้ในวันไหว้ในวันรุ่งขึ้น
- วันไหว้ ตรงกับ วันที่ 21 มกราคม 2566 หมายถึง วันที่ทำการตั้งโต๊ะวางเครื่องเซ่นไหว้ และทำพิธี เพื่อไหว้เทพเจ้า บรรพบุรุษ และญาติผู้ล่วงลับ
- วันเที่ยว (วันถือ) ตรงกับ วันที่ 22 มกราคม 2566 หมายถึง วันขึ้นปีใหม่ ของชาวจีน ในวันนี้ จะมีประเพณีไหว้ขอพรและอวยพรจากญาติผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพรัก โดยการมอบส้มสีทอง และถือคติต่างๆเช่น งดทำความสะอาดบ้าน งดการทำงาน งดการพูดคำไม่มงคล เป็นต้น
สำหรับอาหารไหว้บรรพบุรุษตรุษจีน ของไหว้บรรพบุรุษ ของไหว้ตรุษจีน จะใช้ทั้งของคาวจำพวกเนื้อสัตว์ที่มีความหมายมงคล ขนมมงคล ผลไม้มงคล ซึ่งดังนี้
- ของคาว : เช่น หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา แล้วแต่ว่าจะไหว้มากหรือน้อย ถ้าหากไหว้ 3 อย่างเรียกว่า ชุดซาแซ ซึ่งมี หมู เป็ด ไก่ ส่วนการไหว้ 5 อย่างเรียกว่า ชุดโหงวแซ ซึ่งมี หมู เป็ด ไก่ ตับ ปลา
- กับข้าว : นิยมจัด 8 อย่าง หรือ 10 อย่าง โดยให้มีของน้ำ 1 อย่าง และส่วนมากเป็นกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบ
- ข้าว : ข้าวสวยใส่ชามพร้อมตะเกียบ จำนวนชุดตามจำนวนบรรพบุรุษ นิยมนับถึงแค่รุ่นปู่ย่า
- ขนมไหว้ : ฮวกก้วยหรือขนมถ้วยฟู, คักท้อก้วยหรือขนมกุยช่าย (เป็นไส้ชนิดใดก็ได้), ขนมจันอับ, ซาลาเปา ซึ่งขนมไหว้นี้ต้องมีสีชมพูหรือมีแต้มจุดแดง
- ขนมไหว้พิเศษ : ต้องมีขนมเข่ง ขนมเทียน เป็นหลัก
- ผลไม้ : ส้ม กล้วยหอม องุ่น แอปเปิ้ล สาลี่
- เครื่องดื่ม : น้ำชา 5 ที่ หากมีไหว้ของคาวจะไหว้เหล้าด้วยก็ได้ โดยให้จัด 5 ที่เช่นกัน
- กระดาษเงิน กระดาษทอง : ต้องมี "อวงแซจิ่ว" สำหรับใบเบิกทางให้บรรพบุรุษลงมารับของไหว้ ทองแท่งสำเร็จรูป แบงก์กงเต๊ก ค้อซี ฯลฯ จะมากหรือน้อยแล้วแต่เรา
ขั้นตอนการโต๊ะไหว้ตรุษจีน
จุดที่ 1 : จัดวางโต๊ะไหว้ไว้ในบริเวณหน้าเทวรูป หรือแท่นบูชา
จุดที่ 2 : กระถางธูปให้วางไว้หน้าแท่นบูชา หรือเทวรูป เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
จุดที่ 3 : วางเชิงเทียนและแจกันดอกไม้ ขนาบข้างซ้ายและขวาของกระถางธูป เป็นสัญลักษณ์แทนความสว่างไสวและความเจริญงอกงาม
จุดที่ 4 : ข้าว ซึ่งส่วนใหญ่จะไหว้จำนวน 5 หรือ 3 ถ้วย โดยต้องตักข้าวให้พูนถ้วย เพื่อแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์
จุดที่ 5 : ถ้วยน้ำชา หรือถ้วยเหล้า
จุดที่ 6 : ถ้วยน้ำดื่ม
จุดที่ 7 : ของคาว หรือที่เรียกว่า "ซาแซ" เครื่องเซ่นไหว้ 3 อย่าง หรือ "โหวงแซ" เครื่องเซ่นไหว้ 5 อย่าง ซึ่งจะต้องมีเนื้อสัตว์ครบ 3 ประเภท คือ สัตว์มีกีบที่เท้าอย่างหมู สัตว์มีปีก เช่น ไก่หรือเป็ด และสัตว์มีครีบอย่างปลา แต่ถ้าจัดโต๊ะไหว้บรรพบุรุษจะต้องมีกับข้าวที่มีน้ำซุปเป็นส่วนประกอบด้วย
จุดที่ 8 : ของหวานหรือผลไม้ ส่วนใหญ่จะจัดจำนวนเท่ากับของคาวที่ไหว้
จุดที่ 9 : วางกระดาษเงิน กระดาษทอง ไว้บนโต๊ะไหว้
ช่วงเวลาการไหว้ตรุษจีน 2566
- ช่วงเช้า เวลา 06.00-07.00 น. ไหว้เทพเจ้าต่างๆ
- ช่วงสาย เวลา 10.00-11.00 น. ไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ ผู้ล่วงลับ เพื่อแสดงความกตัญญู
- ช่วงบ่าย เวลา 14.00-16.00 น. ไหว้ผีไร้ญาติ พร้อมทั้งมีการจุดประทัดเพื่อไล่สิ่งชั่วร้าย และเพื่อเป็นสิริมงคล
ไหว้ตรุษจีนใช้ธูปกี่ดอก
- ไหว้เทพเจ้า รวมถึงเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย : ใช้ธูป 3 ดอก
- ไหว้บรรพบุรุษ : ใช้ธูป 3 ดอก
- ไหว้สัมภเวสี ผีไร้ญาติ : ใช้ธูป 1 ดอก
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews