"วันตรุษจีน2566" เช็ควันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว วันไหนได้ อั่งเปา กับ แต๊ะเอีย อีกหนึ่งเทศกาลที่ คนไทยเชื้อสายจีนรอคอยนั่นก็คือ "วันตรุษจีน" ซึ่งนอกจะเป็นการไหว้บรรพบุรุษ และ การทำความสะอาดบ้าน นุ่งห่มเครื่องแต่งกายที่เป็นสิริมงคลแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่เด็กๆ ชื่นชอบเห็นทีจะเป็น ซองแดงๆ ที่ได้รับ แต่ก็แอบสงสัยอยู่นิดว่า อั่งเปา กับ แต๊ะเอีย ต่างกันยังไง วันนี้เดี๋ยวจะพาไปดูความหมายของซองแดงนี้กัน
"อั่งเปา"
อั่งเปา ในภาษาจีนแต้จิ๋ว ที่มาจากคำว่า อั่ง แปลว่า แดง และคำว่า เปา แปลว่า ซอง/กระเป๋า เมื่อมารวมกันก็จะหมายความถึง ซองแดง ที่มักจะใส่ของมงคลเอาไว้ อย่าง ส้ม หยก หรือว่าเงิน และเงินที่ใส่ในซองแดงนั้นก็คือแต๊ะเอียนั่นเอง
"แต๊ะเอีย"
แต๊ะเอีย เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว ซึ่ง คำว่า แต๊ะ แปลว่า กด/ทับ ส่วน เอีย แปลว่า เอว เมื่อแปลรวมกันก็จะหมายถึง ของที่มากดทบที่เอว สาเหตุที่เรียกแบบนี้ เนื่องจากในอดีตเงินของชาวจีนจะมีลักษณะเป็นเหรียญวงกลมซึ่งมีรูตรงกลาง และมักจะผูกด้วยด้ายแดง เอาไว้เป็นพวงเพื่อให้เด็ก ๆ ในวันปีใหม่ ส่วนในปัจจุบันไม่มีการใช้เงินเหรียญที่มีรูตรงกลางแล้ว "แต๊ะเอีย" จึงมีความหมายถึง "สิ่งของ" หรือ "เงิน" ที่ใส่ไว้ในซองสีแดง (ซึ่งก็คืออั่งเปา)
ตามความเชื่อของคนจีน “สีแดง” เป็นสีของความมงคล ความรุ่งโรจน์ และความโชคดี ดังนั้นชาวจีนมักนำเงินใส่ซองแดง มอบให้กับลูกหลานหรือคนรู้จักเนื่องในวันมงคลต่างๆ เช่น วันตรุษจีน วันแต่งงาน วันคนเปิดร้านใหม่ ฯลฯ เพื่อเป็นการอวยพรให้ผู้รับพบแต่โชคลาภ และเพื่อเป็นการแสดงความยินดี
แม้จะเข้าสู่ช่วงตรุษจีน แต่คนไทยเชื้อสายจีนหรือลูกหลานคนจีน ไม่ใช่ว่าจะได้รับอั่งเปาหรือแต๊ะเอียเลยทันที เนื่องจากปฏิทินตรุษจีนนั้นจะแบ่งวันออกเป็น 3 วัน ซึ่งในปี 2566 นี้ ตรุษจีนวันจ่าย ตรงกับวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2566 , ตรุษจีนวันไหว้ ตรงกับวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2566 และ ตรุษจีนวันเที่ยว หรือวันปีใหม่ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566
โดยธรรมเนียมในวันเที่ยวหรือวันชิวอิก จะเป็นวันที่เราไปไหว้ขอพรผู้ใหญ่ พร้อมกับส้มมงคลเพื่อนำความโชคดีและคำอวยพรไปให้บุคคลที่เราเคารพนับถือ โดยในวันนี้จะเป็นวันที่เราได้รับอั่งเปาหรือแต๊ะเอีย กลับมาจากญาติผู้ใหญ่นั่นเอง
เมื่อเด็กๆ เติบโตขึ้น มีงานทำ มีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว จะไม่ได้รับ "แต๊ะเอีย" แต่จะต้องเป็นคนให้เงิน "แต๊ะเอีย" กับเด็กๆ ในบ้านที่มีอายุน้อยกว่าต่อไป วนเป็นวัฏจักรโดยมีเกณฑ์เป็นความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน ครอบครัว หรือการเติบโตทางการเงินที่มากขึ้น เป็นตัววัด เช่น ผู้ที่เริ่มทำงาน หรือแต่งงานแล้ว
- ผู้น้อยสามารถมอบอั่งเปาให้ผู้อาวุโสกว่าได้ โดยการมอบอั่งเปาให้ผู้อาวุโสกว่า หมายถึง การอวยพรให้ผู้ใหญ่มีสุขภาพดี แข็งแรง อายุยืนยาว
- การมอบอั่งเปาให้เด็กๆ หมายถึง การอวยพรให้เด็กๆ โชคดี มีโชคลาภ เจริญเติบโตแข็งแรง
- หากผู้ใหญ่มอบอั่งเปาให้ลูกหลานที่ทำงานแล้ว ก็เป็นการอวยพรให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า มีสุขภาพแข็งแรง
- หากลูกๆ ที่ทำงานแล้ว หรือแต่งงานไปแล้วมอบอั่งเปาให้พ่อแม่ จะเป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวที อวยพรให้พ่อแม่มีอายุยืนยาว
ทั้งนี้การที่ลูกให้อั่งเปาพ่อแม่ และพ่อแม่ให้อั่งเปาลูกด้วย จะต้องเป็นเงินของใครของมันเท่านั้น หากลูกให้พ่อแม่แล้ว พ่อแม่นำกลับมาให้ลูกต่ออีกที แบบนี้ไม่ได้
การให้อั่งเปา ผู้ใส่มักจะนิยมใส่จำนวนเงินเป็นเลขคู่ เนื่องจากตามความเชื่อของชาวจีนถือว่าเลขคู่เป็นเลขมงคล อีกทั้งหมายถึงการทวีคูณ โชคสองต่อ โชคสองชั้น แต่จะให้จำนวนเงินเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับรายได้ด้วยเช่นกัน ถ้ารายได้ไม่มาก หรือให้เด็กเล็ก อาจใส่ซองละ 200, 400, 800 ถ้ารายได้มากหรือมอบให้ผู้ใหญ่ที่โตขึ้น ก็อาจใส่จำนวนมากขึ้นตามแต่กำลัง
แต่ตัวเลขที่นิยมมากที่สุด คือ เลข 8 เพราะในภาษาจีนเลข 8 อ่านออกเสียงคล้ายกับคำที่มีความหมายว่า ความร่ำรวย ความรุ่งโรจน์ ความรุ่งเรือง
อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนอาจจะเก็บเงินแต๊ะเอียทั้งหมด หรือเหลือเงินแต๊ะเอียที่ได้รับมาบางส่วนเก็บไว้ในซอง เพราะถือว่าเงินแต๊ะเอียคือความเป็นสิริมงคล และเป็นเงินขวัญถุง เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในวันปีใหม่
ขอบคุณ ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร