จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ศาลออกหมายจับ น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) คดีหลอกลงทุน และ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จผ่านโลกออนไลน์ ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท ซึ่งวันที่ 19 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา เม พรีมายา ได้เดินทางมามอบตัวตามหมายจับ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง ในวันเดียวกันยังได้ควบคุมตัว น.ส.มณีนุช เทียนสว่าง น้องสาว เม พรีมายา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะจะเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่ง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ยืนยันได้ออกไปแล้ว 11 หมายจับ
ล่าสุด วันที่ 20 ม.ค. 2566 พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ เม พรีมายา และพวกในหลายประเด็น โดย เม พิชญ์นรี ให้การภาคเสธ ระบุว่าไม่ได้มีเจตนาที่หลอกลวง ซึ่ง น.ส.พิชญ์นรี และพวก รวม 5 คนได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวนจะพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้วางเงินสด 100,000 บาท เป็นหลักทรัพย์ประกัน เบื้องต้นคาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้ ผู้ที่ถูกออกหมายจับปมพรีมายา จะประสานเข้ามอบตัวเพิ่ม ที่บช.สอท.
ล่าสุด เม พรีมายา ก็ได้เคลื่อไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก Phitnari Tantiwit ระบุว่า วันนี้เมไม่ได้ยืนหยัดกับการสู้ชีวิตมากมายขนาดนี้แค่เพื่อตัวเองหรอกนะคะ แต่เมเห็นความรักและความหวังอีกมากมายที่ฝากไว้กับผู้หญิงคนนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยจริงๆค่ะ ที่จะไม่ต่อสู้ เดินหน้าเพื่อพวกเราทุกคน เราทำกันมาได้ขนาดนี้ ทุกคนสู้ ตั้งใจ ทุ่มเทมามากมายจนมันทำให้เมยอมแพ้และอ่อนแอไม่ได้เลยเหมือนกัน
เมขอขอบคุณทุกคนที่รักกันจริงๆ การกระทำของพวกเรา(เพื่อนพี่น้อง คนใกล้คนไกล คนที่รักและหวังดี)ต่างก็เป็นกำลังใจให้กันและกันมาเสมอ มันคอยตะโกนออกมาจนเมสัมผัสได้ทุกช่องทาง "บอสเมสู้ๆ" เมรู้และเมก็เชื่อว่าคนอื่นก็รับรู้ได้ที่เมก็คอยส่งกำลังใจและหวังดีให้พวกเรามาโดยตลอดเช่นกัน
เมทำงานตรงนี้ เมื่อก่อนมันก็คงทำเพราะคำว่า "หน้าที่" จนตอนนี้มันกลายเป็นความรักความหวังดี พลังที่ยิ่งใหญ่ที่พร้อมจะทำทุกอย่างด้วยหัวใจ และทุ่มให้สุดกำลังใจและกายที่มี เพื่อทุกคนในครอบครัวพรีมายาจริงๆ ยิ่งทุกคนรัก ยิ่งทุกคนเชื่อใจเมมากเท่าไหร่ มันยิ่งทวีคูณพลังของเมที่จะไม่ทำให้คนที่รักเมเสียใจและมันทำให้เมรักทุกคนมากขึ้นทุกวัน
ปัญหาอุปสรรค ตลอดการทำงาน ทำให้เมได้เรียนรู้ปรับตัวแก้ไข ที่จะเป็นเมเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในทุกๆวันเสมอ จากเด็กคนนึงอายุ22-23 หาเงินใช้เลี้ยงตัวเองได้ จนสามารถแบ่งเบาภาระครอบครัว และภูมิใจที่สุดในชีวิตคือเราสามารถเป็นส่วนนึงที่จะส่งต่อสิ่งดีๆให้โอกาสกับคนในสังคมอีกเยอะแยะมายมาย รู้ตัวอีกทีก็วุ่นๆกับการสร้างตัวมานี่ไม่กี่วันก็จะอายุ30แล้วนะ เวลา7ปีที่ผ่านมา ได้อะไรมาเยอะแยะมากมาย แต่ที่เสียไปก็เป็นอะไรที่ย้อนเอาคืนมาไม่ได้เหมือนกัน มันแลกมาด้วยทุกอย่าง ไม่มีอะไรง่ายเลยจริงๆ
เมมีวันนี้ได้ มาจากความเข้าใจเสมอที่ว่าอุปสรรคเป็นส่วนนึงของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ขนาดของอุปสรรคมาพร้อมกับขนาดของธุรกิจ เมเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยไม่เคยตั้งคำถามว่าทำไม? เพราะทุกอย่างมันเข้าใจได้จริงๆ ทำงานเยอะโอกาสล้มเหลวโอกาสผิดพลาด โอกาสสำเร็จก็เยอะมากเท่านั้น ทำงานแล้วเจอปัญหา ไม่ว่าจะใหญ่จะเล็ก มันก็เกิดขึ้นได้เสมอค่ะ อย่างเช่นครั้งนี้ก็เช่นกัน
ใครจะมองยังไงไม่รู้ แต่ปัญหาครั้งนี้ ไม่ต้องใช้ใจ มารักกันหรือพยายามเข้าใจกันก็ได้ คงสังเกตจากกระทำ เจตนาได้ไม่ยาก ว่าที่ผ่านมาเราบริสุทธิ์ใจมากแค่ไหนและไม่เคยมีเจตนาไม่ดีในการทำธุรกิจเลยสักครั้งเดียวในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงทำสิ่งไม่ดีหรอกนะ
เมเชื่อว่า ไม่ว่าจะปัญหาไหนๆที่เข้ามา เมผ่านไปได้อย่างแข็งแกร่งแน่นอน เมพร้อมที่จะเติบโต เมรักการทำงาน หน้าที่การงานตรงนี้ มันกลายเป็นจิตวิญญาณไปแล้ว เมอยากให้หนึ่งชีวิตนี้ชีวิตเดียวที่เมมี มีคุณค่ามากที่สุดเท่าที่เมจะทำได้ ในอนาคตข้างหน้าคงมีอะไรให้เราเรียนรู้ ปรับปรุง พัฒนาอีกเยอะแยะมากมาย มันก็ถูกแล้วค่ะ ทำงานเนอะ มันก็ต้องมีปัญหาให้เราแก้ ต้องมีเรื่องที่ไม่รู้ให้เราได้รู้อยู่ตลอดแหละ
ขอขอบพระคุณอีกครั้งกับทุกความหวังดี ทุกกำลังใจ ความรักความเมตตาคนคนนี้ ผู้หญิงคนนี้มันรักดีอยู่แล้ว พร้อมจะเรียนรู้ พร้อมจะเรียนผูกเรียนแก้ ใช้ชีวิตกันต่อไป เพื่อจะเติบโตอีกมากมายบนโลกใบนี้ มันจะผ่านไปได้ เหมือนกับ ที่ผ่านๆมาได้ตลอดนั่นแหละ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews