นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วม สกมช. แจงกรณีแอปดูดเงินอันตราย หลังพบประชาชนได้รับผลกระทบจากการติดตั้งแอปพลิเคชันอันตรายลงในโทรศัพท์มือถือ แล้วทำให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาดูดเงินออกไปเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของมัลแวร์อันตราย ที่มาในรูปแบบของแอปพลิเคชัน ซึ่งดีอีเอส และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้มีการตรวจสอบมาโดยตลอด โดยพบปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถขโมยข้อมูล หรือควบคุมเครื่องโทรศัพท์ได้ โดยในปี 2022 มีการเผยแพร่รายชื่อแอปพลิเคชันอันตรายเหล่านี้ ซึ่งมีมากกว่า 200 รายการ ทั้งในระบบ iOS และ Android ตามที่ปรากฎใน Facebook ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ Facebook ของ สกมช. (NCSA THAILAND) จึงขอให้ผู้ใช้งานทำการตรวจสอบ หากพบแอปพลิเคชันดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัพเดทระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนเองให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
ทั้งนี้ ดีอีเอส ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ลงบนโทรศัพท์มือถือ เพราะอาจจะไปเจอมัลแวร์อันตรายได้ เพราะหากมีการโหลดเข้าไปในเครื่องก็จะมีโอกาสที่จะถูกดูดข้อมูลส่วนบุคคล หรือถูกรีโมทเข้ามาควบคุมมือถือของท่าน ซึ่งถ้ามีเกี่ยวกับการเงินก็อาจจะถูกโอนเงินออกไป ที่เรียกว่าใช้แอปดูดเงิน และถ้าพบแอปฯ เหล่านี้อยู่ในมือถือของท่านให้รีบลบออก ซึ่งขณะนี้ กระทรวงฯ ได้ประสานกับทาง Play Store หรือ App Store ทั้งหมดแล้วไม่ให้มีแอปฯ เหล่านี้ในระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหลงกลแล้วโหลดเข้าไป
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการสร้าง SMS โดยใช้ชื่อเดียวกับผู้ส่ง (Sender Name) ที่เป็นธนาคาร แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้รับ SMS เข้าใจผิดและหลงเชื่อว่ามาจากหน่วยงานจริง ซึ่งโดยทั่วไปหน่วยงานส่วนใหญ่ได้ออกประกาศว่าจะไม่มีการส่งลิงก์ผ่าน SMS ให้กับผู้รับบริการ ดังนั้นจึงขอเตือนให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อคลิกลิงก์ที่มากับ SMS หรือเพิ่มเพื่อนจากไลน์ไอดี โดยให้สังเกตรูปแบบ เนื้อหาที่อาจเป็นสิ่งที่ดีเกินจริงหรือทำให้หวาดกลัว เช่น “คุณได้รับอนุมัติวงเงินกู้ 50,000 บาท คลิกลิงก์...” หรือ “โปรดยืนยันรหัสผ่าน มิฉะนั้นบัญชีของท่านจะถูกระงับการใช้งาน ติดต่อไลน์ไอดี...” โดยอาจจะตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานที่ถูกระบุว่าส่ง SMS มาอีกครั้ง
ทั้งนี้ สกมช. ได้มีการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ทําการส่ง SMS ปลอมเหล่านี้ เพื่อหยุดการทําธุรกรรมต่างๆ ซึ่งกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการประสานงานกับ กสทช. เพื่อขอให้ผู้ให้บริการมือถือทุกค่าย และธุรกิจที่ทำ SMS แล้วปล่อยให้มีการปลอมชื่อออกมา ซึ่งหากทําสําเร็จก็จะไม่มี SMS ปลอมอีก นอกจากนี้ เรื่องการแอดไลน์ก็เช่นเดียวกัน บางทีส่งไลน์มาก็เป็นไลน์ปลอมให้เข้าไปแอด เห็นชื่อเห็นรูปอาจจะเป็นคนที่เรารู้จัก หรือเป็นบริษัท หน่วยงานที่เรารู้จัก เพราะฉะนั้นขอให้ระวังเช่นเดียวกัน
“อย่าไปแอดไลน์ อย่าไปคุยกับคนเหล่านี้ เพราะว่าถ้าเขาพูดคุยเข้ามา ส่งข้อความมาที่เป็นของที่ดีเกินจริงได้ประโยชน์มากเกินควร เช่น อาจจะให้กู้เงินห้าหมื่นบาท ให้ขายสินค้าในราคาพิเศษถูกมากๆ หรือหลอกว่าจะมีรายได้พิเศษให้เรา ถ้าเราไปทํางานกับเขา ไปลงทุนกับเขา พวกนี้มันดีเกินจริง คิดไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพ ผ่านช่องทางไลน์ปลอม หรือ SMS ปลอม ก็อย่าไปยุ่ง อย่าไปกดลิงก์ อย่าไปให้ข้อมูลเด็ดขาด” นายชัยวุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากจะติดต่อกับหน่วยงานใดๆก็ตาม ผ่านช่องทางออนไลน์ ควรติดต่อผ่านแอปพลิเคชันที่ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นแอปพลิเคชันจริง หรือไปที่เว็บไซต์ของเขา ซึ่งเว็บไซต์ก็ต้องเป็นเว็บจริง วิธีการสังเกต คือ เป็นเว็บที่ลงท้ายด้วยดอททีเอช ทีเอชก็คือไทยแลนด์ เป็นเว็บไซต์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งอันนี้ได้มีการตรวจสอบยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องและเชื่อถือได้ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนดูที่แอปพลิเคชันที่ท่านคุ้นเคย และใช้งานอยู่เป็นประจำ มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและไม่ถูกหลอกให้สูญเงินด้วย
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews