แม่น้องวีน ยอมเปิดยอดบริจาคแล้ว พร้อมเผยที่มารถกระบะหน้าบ้าน

 สำหรับประเด็นน้องวีนสอบติดหมอที่เป็นประเด็นได้ความสนใจอย่างมาก ทำให้ในโลกออนไลน์วิจารณ์สนั่นปมน้องวีนจนทิพย์ ตามมาด้วยดราม่าของเงินบริจาคที่แม่น้องวีนยังไม่ยอมเปิดเผย โดยได้มีการขอพบกับนางอำพา แม่น้องวีน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้   

ต่อมาได้เข้าไปสอบถามเพื่อนบ้านว่าครอบครัวน้องวีนจนจริงหรือไม่ ทางเพื่อนบ้านบอกว่า จนได้ไงรับชื้อยางพารา และชอบทำตัวเป็นไฮโซ แต่ยอมรับว่าน้องวีนเรียนเก่งจริงๆ ขณะที่เพื่อนบ้านอีกรายบอกว่า สื่อโดนต้มเพราะครอบครัวน้องวีนไม่ได้จนอย่างที่ครอบครัวออกมาพูดและเป็นข่าวในตอนแรก คนในหมู่บ้านรู้ดี

เกี่ยวกับประเด็นนี้ ล่าสุดทางด้านนางบุญมา ป้าของนางเจี๊ยบ ยืนยันว่าครอบครัวของนางเจี๊ยบ จนจริง ไม่ใช่จนทิพย์ เพราะบ้านที่เขาอยู่ก็เป็นบ้านของป้า นางเจี๊ยบก็จะมีแค่รถยนต์กระบะสีเขียว 1 คัน ที่ซื้อไว้ตั้งแต่เขายังอยู่กับสามี สำหรับรับซื้อขี้ยาง รวมถึง จยย. 2 คัน จอดอยู่หน้าบ้าน 1 คัน และน้องวีนขับไปโรงเรียน 1 คัน ส่วนรถยนต์กระบะสีขาว ทราบว่าเป็นของเพื่อนนางเจี๊ยบที่เอามาจอดฝากไว้เฉย ๆ 

• "หนุ่ม กรรชัย" สุดทนตอบชัด ปมดราม่าน้องวีนเปิดรับบริจาค แต่สุดท้ายจนทิพย์
• ญาติเผยความจริง ปมบ้านใหม่ "นุ่มนิ่ม พรีมายา" ชี้ไม่ได้รวยอย่างที่เป็นข่าว
• แม่ค้าขายโรตีสุดอัดอั้นปล่อยโฮ โดนเทศกิจไล่ที่ วอนผู้ใหญ่ช่วยเหลือ

ส่วนเรื่องยอดบริจาคทั้งหมด โรงเรียนก็สอบถามกับน้องและแม่เช่นกันว่าได้มีการปิดบัญชีไปแล้วหรือยัง เพราะทางโรงเรียนเห็นว่าน้องประกาศปิดรับบริจาคไป ตั้งแต่ 8 ม.ค. 66 ซึ่งทางแม่ของน้องบอกว่ายังไม่ไปปิดบัญชี ไม่กล้าออกไปไหนเลย ทำให้เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 ทางโรงเรียนก็พาน้องไปปิดบัญชีแล้วเรียบร้อยเพื่อตัดปัญหา ยอดบริจาคทั้งหมดคือ 1,002,409.79 บาท รวมระยะเวลา 19 วัน

เบื้องต้นเมื่อวานนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยได้เชิญตัวเองกับลูกไปพูดคุยกับเรื่องนี้แล้ว และตนก็ได้ชี้แจงกับมหาวิทยาลัยไปทั้งหมด พร้อมกับปิดบัญชีไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 66 ให้ติดต่อสอบถามกับทางคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโดยตรง

สำหรับเรื่องราวทั้งหมด ตนขอบอกว่าที่เงียบและไม่ออกมาพูด เพราะสงสารลูก ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกบอบช้ำหมดแล้ว เครียดมากทั้งตัวเองและลูก เนื่องจากมีบางคอมเมนต์ที่เขียนแบบซ้ำเติมในเชิงไม่รู้จริง ขอทิ้งท้ายว่า ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ช่วยเหลือน้อง

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews