เปิดปฏิบัติการ "มาเก๊า 888 Ep2" จากกรณีที่ ตำรวจไซเบอร์ ได้นำกำลังทลายเครือข่ายเว็บการพนันออนไลน์มาเก๊า 888 ก่อนที่ต่อมาจะมีการจับกุม นายณัฐพงศ์ ระชินลา หรือ ซิโก้ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนัน "มาเก๊า 888" ข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลอาญาเป็นเวลา 12 วัน นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการอยู่ระหว่างติดตามตัวอีก
และเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 5 ก.พ.2566 ล่าสุด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ดูแลงานป้องกันปราบปราม พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. นำกำลังตำรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เข้าตรวจสอบ “ออนิกซ์ผับ” แหล่งสถานบันเทิงอาร์ซีเอ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. หลังพบความเชื่อมโยงว่า กลุ่มผู้ต้องหาพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 มีหุ้นส่วนกับผับดังกล่าว
โดยพบนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก กำลังเต้นกินดื่มกันอย่างสุขสำราญในช่วงวันหยุด เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบัตรประชาชนและพาสปอร์ตของกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยแยกกลุ่มผู้ชายและผู้หญิงออกจากกัน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำสุนัขตำรวจ k9 เข้าตรวจสอบหาสารเสพติดภายในผับดังกล่าว พบมียาเสพติดตกอยู่จำนวนมาก จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ภายหลัง พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในสถานบันเทิงแห่งนี้พบยาเสพติดตกอยู่ที่พื้นของสถานบันเทิงจำนวนมาก โดยมีทั้งชนิดเม็ดและผง ตำรวจจะเก็บนำไปตรวจสอบว่าเป็นสารเสพติดชนิดใด ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ตรวจสอบหนังสือเดินทางว่าเข้ามาในไทยอย่างถูกต้องหรือไม่
ขณะที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. เปิดเผยว่า ได้ร่วมนำกำลังมาสืบสวนหาข่าวกับตำรวจนครบาล หลังจากที่สามารถจับผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ มาเก๊า 888 ได้แล้ว 1 คน ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับรวม 13 คน และมีข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาเหล่านี้ได้นำเงินมาฟอกในธุรกิจสถานบันเทิงหลายแห่ง รวมทั้งนัดหมายมาคุยธุรกิจพนันออนไลน์ตามสถานบันเทิง จึงเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย แต่ยังไม่พบ
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1-5 ก.พ.นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ร่วมกันบูรณาการตรวจค้น ตรวจสอบตามสถานบันเทิง และด่านตรวจที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปใช้บริการ เพื่อป้องกันอาชญากรรมและเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
โดยเฉพาะเรื่องด่านตรวจ ในสัปดาห์หน้าจะเสนอแผนให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาปรับเปลี่ยนการตั้งด่านตรวจ ให้ผู้ปฏิบัติมียุทธวิธีในการทำงานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอบรมให้ความรู้กับตำรวจประจำด่าน จะต้องมีความรู้ด้านกฎหมาย เพื่อที่จะตอบคำถามกับประชาชนที่มีข้อสงสัยได้ พร้อมช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ตำรวจได้ว่ามีความรู้สามารถในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
ส่วนการบันทึกภาพของตำรวจที่อยู่ประจำด่านตรวจ หลังจากนี้ต้องมีกล้องบันทึกภาพการตรวจค้นไว้โดยตลอด และห้ามลบภาพ เพื่อป้องกันข้อทักท้วงในภายหลัง โดยชุดภาพจากกล้องประจำตัวของตำรวจ จะต้องนำไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจหลังเสร็จภารกิจและภาพจะถูกนำลงระบบไว้อัตโนมัติ ซึ่งในระบบนี้ยังสามารถบันทึกการใช้อาวุธประจำกายได้ด้วย
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews