เป็นคดีฟ้องร้องกินเวลามาอย่างยาวนาน หลังจากที่ “เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์” ได้ยื่นฟ้องอดีตสามี “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” ในคดีพรากผู้เยาว์ กระต่าย-พรรณนิภา เขียวเพชร” ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลได้มีคำพิพากษาจำคุก 8 ปีไม่รอลงอาญา และต้องชดใช้ค่าเสียหายอีก 350,000บาท ต่อมา เอ๋ มิรา ได้ไปออกรายการโหนกระแส โดยมีการแฉครูไพรบูลย์ ว่าด่าตนว่าหน้าเงิน นอกจากนี้ยังไม่มีการมาหาลูกเลยในระยะเวลา 2 ปี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 เอ๋ มิรา ได้ดินทางมาที่รายการโหนกระแสพร้อมทนายส่วนตัว โดยเอ๋ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่าตอนนี้ตนรู้สึกดีขึ้นแล้ว หลังจากที่กังวลอยู่นาน เเต่มีคดีอยู่ที่ชั้นศาลคือคดีของน้องสายแนน (ลูกของเอ๋กับครูไพบูลย์) ซึ่งศาลก็ได้ยกน้องสายแนนให้ทางเอ๋ มิราเป็นคนดูแล ระหว่างที่ลูกได้มาอยู่กับเอ๋ อดีตสามีก็ไม่ได้ทำการติดต่อมาประมาณ 2 ปี และไม่มีการส่งเสีย แต่ตนก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรในส่วนนี้ แต่ที่ เอ๋ รับไม่ได้คือครูไพรบูลย์ ได้มีการด่าทอว่าแม่ของเอ๋ หน้าเงิน มีแต่อยากได้ ทั้งที่ไม่เคยได้อะไรเลย
ในส่วนของทนายก็ได้ดำเนินคดีการแบ่งสินสมรส แบ่งกรรมสิทธิ์ ก็คือส่วนที่เป็นค่ายเพลง โดยการสั่งฟ้องนั้นจะเป็นการสั่งฟ้องแบบคลิปวิดีโอให้ทุกคนได้ติดตาม ซึ่งทางทนายคิดว่าจะสามารถฟ้องเสร็จในเร็วๆ โดยการฟ้องร้องในครั้งนี้มีมูลค่ามหาศาล
"ครูไพบูลย์ได้อยู่คนเดียวซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนร่วมสร้างกันมาจะไม่ได้อะไรเลย จนถึงวันนี้เอ๋ก็ยังไม่ได้อะไรเลย แม้แต่การสร้างภรรยาคนล่าสุดของคนไพบูลย์เอ๋ก็เป็นคนร่วมสร้างมา"
ด้านทนายความของ เอ๋ มิรา ได้กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องคดีครูไพบูลย์ เพราะไม่ว่ายังไงครูไพบูลย์ก็ยังคงเป็นจำเลยในคดีอาญาที่มีโทษจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญาเป็นโทษติดตัวตลอดไป และทางทนายมั่นใจว่าพร้อมให้ครูไพบูลย์ยื่นฎีกามาเลยเพราะตนเองพร้อมที่จะต่อสู้อย่างเต็มความสามารถ ..."คดีนี้ชั้นอุทธรณ์เจอผมแน่นอน ยื่นมาก็จะทำการยื่นกลับเหมือนกัน"
นอกจากนี้ทางทนายของ เอ๋ มิรา ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ตนมั่นใจเพราะการที่อุทธรณ์ไม่ใช่การนำหลักฐานใหม่มาว่ากัน แต่เป็นการนำเอาพยานหลักฐานเก่ามาว่ากันโดยชอบในศาลชั้นต้น เพราะฉะนั้นไม่มีความกังวลเลยว่าจะมีการพิพากษาต่างจากเดิม
ในตอนนี้มีคดีที่เอ๋ มิรา และครูไพบูลย์ อดีตสามีที่ต้องต่อสู้ในชั้นศาลมี 3 คดี ได้แก่
1. คดีการฟ้องร้องเรื่องน้องสายแนน
2.คดีพรากผู้เยาว์
3. คดีหมิ่นประมาท
และอีก 1คดีที่กำลังเกิดขึ้นคือการฟ้องร้องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมสินสมรส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม และนักกฎหมายด้วย
นอกจากนี้เอ๋ มิรายังบอกอีกว่า เรื่องนี้ไม่มีความกังวลอะไรเเล้วอาจเป็นตัวอย่างให้น้องๆ หลายคนที่รักก่อนวัยอันควรหรือว่าอยู่ในช่วงที่ไม่เหมาะสมที่จะมีความรัก ให้ดูเอ๋เป็นตัวอย่าง ว่าผลกระทบที่มันเกิดขึ้นมันรุนแรงมากกว่าที่เราคิด แล้วตอนนี้เอ๋เป็นเเม่คนแล้ว
"มีคนคอมเมนต์ว่าไม่สงสารลูกเหรอ เอ๋จะตอบว่าถ้าสายแนนโตมาเห็นหนู อยู่ในตอนนี้ หนูคิดว่าลูกน่าจะภูมิใจ ที่แม่ของเขาเก่งและเข้มแข็งได้ขนาดนี้"
ในส่วนแม่ของเอ๋ มิรา ก็ดีใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนร้องไห้ เเม่ของเอ๋ยังบอกอีกว่าไม่ได้ต้องการให้ใครเป็นอะไร แต่เรื่องนี้ก็ทำให้รู้ว่ากฎหมายไทยก็ศักดิ์สิทธิ์อยู่ ชีวิตของตนเองนั้นเหมือนกับละครที่ไม่รู้จะจบอย่างไร
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews