รวบแล้ว สาวอบต.ชิงคัมรี่คุณตาขับแกร็บ โดยผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจ สน.ลุมพินี นำตัว นางสาวกรรณิกา อายุ 30 ปี ลูกจ้างองค์การบริหารส่วนตำบล อบต.แห่งหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบูรณ์ มาสอบปากคำหลังก่อเหตุชิงรถยนต์ของ นายมงคลรัตน์ ญานะ อายุ 75 ปี คนขับแกร็บคาร์ ขณะเรียกใช้บริการจากจังหวัดชลบุรีเพื่อไปส่งที่สถานีขนส่งหมอชิต กรุงเทพฯ โดยมีนายมงคลรัตน์เดินทางมายืนยันตัวผู้ก่อเหตุด้วย
โดยนายมงคลรัตน์ ผู้เสียหายชาวจังหวัดชลบุรี เล่าว่า วันเกิดเหตุขณะไปรับลูกค้ารายนี้จากปั๊มน้ำมันในจังหวัดชลบุรี เมื่อไปถึงจุดรับ ตนเองได้ลงจากรถ แต่เสียบกุญแจคาไว้ เพื่อลงมามองหาลูกค้า แต่หันกลับมาอีกที ลูกค้าก็ขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ พร้อมบอกว่ารีบจะขอขับเอง ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไร เห็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ดูไม่มีพิษภัย ประกอบกับอยากนั่งสบายจึงยอม
แต่ขับไปไม่นาน ลูกค้าสาวก็อ้างว่าไม่ไปสถานีขนส่งหมอชิตแล้ว แต่จะเปลี่ยนเส้นทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ให้ราคาเหมาจ่าย 3 หมื่นบาท แต่ตนเองไม่พร้อมไป และเห็นว่าผิดปกติ จึงอาศัยช่วงที่รถติดทางลงทางด่วนด่านพระราม4 พยายามแย่งกุญแจกลับมา แต่ถูกลูกค้าผลักออกนอกรถ ก่อนจะขับรถหนีไป ปล่อยให้ตนเองล้มเข่าและแขนลากไปกับพื้นได้รับบาดเจ็บอยู่กลางถนน
ด้านมารดาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้งจากที่ทำงานของบุตรสาวว่า 1-2 เดือนที่ผ่านมาบุตรสาวมีอาการเครียดและหลอน ว่ามีคนตาม มีคนจะมาทำร้าย เคยนั่งดึงผมตนเองในห้องน้ำ ให้ตนเองพาไปหาหมอจิตเวช ตนเองก็เตรียมตัวจะพาไป แต่บุตรสาวกลับหายตัวออกจากบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ไปตั้งแต่วันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา
ตนเองตามหาหลายวันแต่ก็ไม่พบ โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งบุตรสาวติดต่อกลับมาประมาณวันที่ 9 บอกว่า ไปชิงรถของนายมงคลรัตน์มา และขับไปเชียงใหม่ ตนเองจึงบอกให้บุตรสาวขับรถกลับมาบ้าน และได้ประสานตำรวจ สภ.หล่มเก่าให้มารับตัวบุตรสาวไปมอบตัว และนำรถผู้เสียหายไปคืน
ทั้งนี้จากการพูดคุย บุตรสาวยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะขโมยรถ แต่ตกใจที่ผู้เสียหายพยายามจะยื้อแย่งกุญแจ บุตรสาวก็คิดว่าจะถูกทำร้าย จึงพยายามหนี
ด้านพันตำรวจเอกนิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี กล่าวว่า คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้กำชับให้เร่งรัดดำเนินการ เนื่องจากเป็นคดีประทุษร้ายต่อผู้สูงอายุ หลังสอบปากคำแล้วเสร็จ ก็จะนำตัวผู้ก่อเหตุไปฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย
สอบถามนายมงคลรัตน์ ญานะ อายุ 75 ปี คนขับแกร็บคาร์ ว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ นายมงคลรัตน์ เผยกว่าจริงๆก็ไม่อยากจะให้เป็นเรื่อง จากนี้จะพิจารณาเรื่องติดกล้องหน้ารถ พร้อมบอกด้วยว่ารายได้จากการขับแกร็บนี้เป็นรายได้ที่นำมาเป็นค่ายาค่ารักษาเพราะตนป่วยหลายโรคทั้งความดันเบาหวาน ทั้งนี้ตนได้รถคืนมาแล้วก็ดีใจ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews