หลังจากประเป็นข่าวฮือฮากรณี เศรษฐี วัย 67 ปี ออกมาแฉลูกชายและสะใภ้ กักขังวางยาพิษหวังฮุบสมบัติกว่า 65 ล้านบาท ล่าสุด "ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์" ออกมาเตือนถึงคดีดังกล่าว ว่าระวังจะโอละพ่อ พบพิรุธหลายประเด็น แถมยังพูดถึงเรื่องของลูกชายและลูกสะใภ้
โดยทางด้าน ทนายเดชา เผยว่า ตนมีแหล่งข่าวที่ยืนยันได้ว่า เรื่องเฮียหมูไม่ใช่เรื่องจริง ตอนนี้สภาพจิตใจของลูกชายยังบอบช้ำ โดนประณามว่าเป็นลูกทรพี และต้องการที่จะแถลงข่าวในอีก 2-3 วันนี้ พร้อมกับเตือนว่าเรื่องนี้ให้ระวังโอละพ่อ เรื่องนี้มีพิรุธหลายประเด็น เช่น
- เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อปี 2563 และผ่านมา 3 ปี เพิ่งมีการแจ้งความ หลักฐานใดๆ ก็ไม่เหลือแล้ว
- เมื่อตำรวจไปขอหมายค้นมาค้นที่บ้าน ก็พบว่าสภาพที่เกิดเหตุไม่เหมือนมีคนไปโดนกักขัง ทุกอย่างมีสภาพปกติ
- ฝั่งลูกชายมีพยานยืนยันได้ว่าเฮียหมูเดินไปไหนมาไหนได้ปกติ ไม่ได้โดนกักขังอย่างที่อ้าง เรื่องการเขียนจดหมาย ถ้าเฮียหมูส่งจดหมายให้ไปรษณีย์ได้ ก็แสดงว่าไม่โดนกักขังอย่างที่พูด
- พ่อ-ลูก มีคดีพิพาทในศาลก็คือ คดีบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และคดีมรดก
ในส่วนของลูกชาย ปัจจุบันยังอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนลูกสะใภ้ไปเที่ยวที่ฮ่องกง ไม่ได้ทำอะไรผิด ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะยังไม่มีหลักฐานที่ระบุว่าเป็นการฆาตกรรมหรือกักขังหน่วงเหนี่ยว อยากให้ฟังหูไว้หู ขณะเดียวกันกลับมีการปล่อยข่าวว่าลูกชายและสะใภ้หนีไปต่างประเทศแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง
ทางแหล่งข่าวยังบอกอีกว่า ลูกชายของเฮียหมูเป็นลูกคนเดียว อย่างไรก็ต้องได้สมบัติของพ่อ จึงไม่มีเหตุอะไรที่จะจูงใจให้กักขังพ่อ และแนวโน้มเรื่องนี้อาจเป็นปัญหาในครอบครัว
สำหรับ เฮียหมู ถือเป็นนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งในฉะเชิงเทรา มีธุรกิจหลายอย่าง ที่ดิน ตึกแถว ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เฮียหมูมีลูกชายคือนายธวัชชัย ที่แต่งงานกับ นางเจนนิส ตั้งแต่ปี 2554 มีบุตรด้วยกัน 2 คน ซึ่งคาดว่าชนวนความขัดแย้งอาจจะเกิดจากเงินในร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าหาย เฮียหมูจึงไปแอบติดกล้องวงจรปิด และพบว่าคนที่ขโมยเงินคือลูกสะใภ้ จึงมีการว่ากล่าวตักเตือน แต่ลูกสะใภ้ไม่พอใจจนกลายเป็นปมขัดแย้ง และลุกลามไปถึงขั้นวางแผนจับขัง วางยา ฮุบสมบัติ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews