จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เดินทางไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อแฉเรื่องการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม หลังตรวจสอบพบว่าไม่โปร่งใสล็อคสเปค ในกระบวนการกำหนด TOR และมีการปรับ TOR ใหม่ให้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เอกชนบางรายเข้าหลักเกณฑ์เพียงบริษัทเดียว ซึ่งแสดงถึงความไม่โปร่งใสและส่อไปในทางทุจริต
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ทางกระทรวงคมนาคม ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงนายชูวิทย์ เพื่อขอหลักฐานเรื่องที่นายชูวิทย์ได้กล่าวถึง โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า
กระทรวงคมนาคม ในฐานะเป็นส่วนราชการที่มีหน้าที่กำกับดูแลการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตลอดจนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) มีความจำเป็นต้องขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับเงินทอนจากโครงการดังกล่าว 3 หมื่นล้านบาท ที่นายชูวิทย์ยืนยันว่ามีหลักฐานการโอนเงินดังกล่าวไปจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่ประเทศสิงคโปร์ เข้าบัญชีธนาคาร HSBC เพื่อเอาทุนมาลงการเมือง และมีการทุจริตในโครงการดังกล่าว
สำหรับรายละเอียดที่ขอเพิ่มเติมจากนายชูวิทย์ มีดังนี้
1.บัญชีธนาคาร HSBC ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นของผู้ใด บัญชีเลขที่อะไร และมีชื่อผู้ใดเป็นผู้โอนเงิน 3 หมื่นล้านบาท
2.เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ท่านประสงค์จะกล่าวหาคือบุคคลใดบ้าง(ระบุชื่อ-นามสกุล) ดำรงตำแหน่งใด มีพฤติกรรมอย่างไรในการกระทำการทุจริตในโครงการดังกล่าว
3.ท่านมีพยานหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวหาตามที่ได้แถลงข่าวบริเวณทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 21 และ 24 ก.พ.66 หรือไม่ อย่างไร
4.ท่านดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องตามข้อกล่าวหาของท่านเป็นคดีอาญาต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วหรือไม่ อย่างไร ผลเป็นประการใด
กระทรวงคมนาคม ขอความอนุเคราะห์จากนายชูวิทย์ให้ส่งมอบข้อมูลรายละเอียด และเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมให้กับกระทรวงคมนาคมภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ เพื่อจะได้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดโดยเร็ว อันจะเป็นการสร้างประโยชน์ร่วมกันให้เกิดแก่ทางราชการ และประชาชนต่อไป