เกาะติดการโอนเงินประกันรายได้ข้าว ล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 งวดที่ 21
สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2566 ปรากฏว่า
1. ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 13,630.87 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 369.13 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 5,906.08 บาท
2. ข้าวเปลือกปทุมธานี มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 10,968.84 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 31.16 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 779.00 บาท
3. ข้าวเปลือกเจ้า มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 9,956.36 บาท เกษตรกรจะได้รับชดเชยส่วนต่างตันละ 43.64 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 1,309.20 บาท
สำหรับข้าวเปลือกเหนียว มีราคาเกณฑ์กลางตันละ 12,255.26 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาประกัน จึงไม่มีส่วนต่างชดเชยในงวดนี้ สำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง เนื่องจากสิ้นสุดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว โดยจะจ่ายเงินให้เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์งวดที่ 21 ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 ซึ่งจะมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 11,133 ครัวเรือน
สำหรับวิธีเช็กเงินประกันข้าว 65/66
1. เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com (คลิกที่นี่) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
2. กรอกเลขประจำตัวประชาชน เพื่อใช้ในการเช็ค "เงินเยียวยาเกษตรกร" หลังจากกรอกเลขบัตรประชาชน โดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
3. ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้ว หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ การเช็กเงินประกันรายได้ข้าว หากผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกรตรวจสอบระบบจะขึ้นข้อมูลว่า "ไม่พบข้อมูลการลงทะเบียน (โปรดติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามชนิดพืชที่ได้รับสิทธิตามโครงการ)"