หลายคนคงทราบข่าวการเสียชีวิตของ เสี่ยปาน หรือ นายยงยุทธ แก้วสวนจิก หนุ่มรปภ.ถูกหวยรางวัลที่1 30 ล้าน แต่หลังจากนั้นกลับพบว่าตนเอง ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย สุดท้ายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ทิ้งมรดกทั้งบ้าน ที่ดิน เงินสดกว่า 10 ล้านบาทเอาไว้ ซึ่งหลังจาก เสี่ยปานเสียชีวิต ได้เขียนพินัยกรรมให้พี่สาวเป็นผู้จัดการมรดก แต่ พินัยกรรมเสี่ยปาน กลับมีปัญหากลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา
เมื่อ น.ส.เสาวณีย์ ทองวิเศษ อายุ 37 ปี หรือมด อดีตภรรยาเสี่ยปานออกมาเรียกร้องขอความยุติธรรมให้กับลูกชายวัย 8 ขวบ ลูกชายของเสี่ยปาน ที่ตอนนี้ไม่ได้ค่าเลี้ยงดูเดือนละ 7,000 บาทและเงินตามพินัยกรรมที่เขียนไว้แล้วอีก 2 ล้านบาท หลังจากเสี่ยปานเสียชีวิตไปแล้ว
โดย มด อดีตเมียเสี่ยปาน ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้และนำเอกสารเป็นสำเนาพินัยกรรมของเสี่ยปาน ใบแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.สุธีรา แก้วสวนจิก พี่สาวเสี่ยปาน ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งในพินัยกรรมของเสี่ยปานที่ทำไว้ก่อนเสียชีวิต มีใจความสรุปเอาไว้ว่า
"บ้านและที่ดิน 10 ไร่ที่เป็นที่ตั้งบ้านขุนวรเดช ให้ผู้จัดการมรดกเป็นผู้ขาย จำหน่ายถ่ายโอน แล้วนำเงินที่ได้จากการขาย แบ่งให้น้องเกาลัด ซึ่งเป็นลูกชายเสี่ยปาน 3,000,000 บาท โดยแบ่งเป็นเงินสด 2,000,000 บาท โอนเข้าบัญชี ส่วนอีก 1,000,000 บาทให้โอนให้ลูกชาย เดือนละ 7,000 บาทไปจนกว่าจะครบ 20 ปีบริบูรณ์"
อดีตเมียเสียปานยังบอกอีกว่า นับตั้งแต่ เสี่ยปานเสียชีวิต ก็ไม่ได้รับเงินตามที่พินัยกรรมระบุเอาไว้ อีกทั้งยังติดต่อได้บ้างไม่ได้บ้าง เมื่อติดต่อได้ก็จะได้พูดคุยเพียงแค่สั้นๆ แล้วพี่สาวเสี่ยปานก็รีบวางสายทันที กระทั่งทราบว่า มีการซื้อขายที่ดินแปลงที่ระบุในพินัยกรรม คือบ้านและที่ดินจำนวน 10 ไร่ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.65 มีการซื้อขายไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 65
ตนจึงไปแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ ที่ สภ.หนองหานเอาไว้ วงเงิน 2 ล้านบาท และมีการแจ้งความยักยอกทรัพย์ ในวงเงิน 7 พันบาท เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 66 นับจากวันนั้น จนถึงวันนี้ ไม่เคยได้เงินแม้แต่บาทเดียว ตนจึงต้องออกมา เรียกร้องสิทธิ์ของลูกชายของเธอ และต้องการสิทธิ์ ในส่วนที่พินัยกรรมระบุเอาไว้เท่านั้น