ชูวิทย์ บุก ป.ป.ช. จี้สอบ ศักดิ์สยาม พร้อมเผาแบงค์กงเต๊ก แช่งคนรับเงินทุจริต

    เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ก็จะมีการแฉเกิดขึ้นสำหรับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ช่วงนี้ได้มีการออกแฉวงการต่างๆ แบบรัวๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 นายชูวิทย์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึง นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาฯป.ป.ช. เพื่อขอให้พิจารณาตรวจสอบ และดำเนิน 4 เรื่องที่เกี่ยวกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ, ตรวจสอบ นาย ส.ข้าราชการใน ป.ป.ช, เลขาฯส.ป.ก .ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 และร้องเรียนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย

   โดยนายชูวิทย์ ได้เปิดหลักฐานหนังสือของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ทำหนังสือเพื่อขอให้เป็นผู้ถือสิทธิ์ในการเข้าทำประโยชน์ของที่ดิน ส.ป.ก. และได้เปิดรายชื่อของพนักงานทั้ง 15 รายที่ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว รวมทั้งเอกสารคู่เทียบการประมูลเกี่ยวกับกรมทางหลวงชนบท ในจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปี2563-2565

ขณะการสัมภาษณ์นายชูวิทย์ ได้ทำการเผาแบงค์กงเต๊ก ธนบัตรปลอม กระดาษเงิน และกระดาษทอง และได้ทำการสาปแช่งคนที่รับเงินจากการทุจริตคอรัปชันโครงการของรัฐ

   โดยรายละเอียด 4 เรื่อง ที่นายชูวิทย์ ยื่นให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบประกอบไปด้วย

1. กล่าวโทษนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรณีการตั้งนอมินีถือหุ้นแทนในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และนำไปรับงานในกระทรวงคมนาคม มูลค่าหลักพันล้านบาท

2. ยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบ นาย ส.ข้าราชการใน ป.ป.ช.โดยนายชูวิทย์อ้างว่าเป็นคนรับหน้าที่จัดการคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง

3. กล่าวโทษ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เกี่ยวกับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 กรณีการปล่อยปละให้ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ใน ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี กว่า 700 ไร่

4. ยื่นร้องเรียนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา157 กรณีที่ดินเขากระโดง ที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสนามฟุตบอล บ้าน และบริษัทเอกชน ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และนายเนวิน ชิดชอบ ที่ จังหวัดบุรีรัมย์

 ทั้งนี้เมื่อมีคนได้ถามนายชูวิทย์ว่า กรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาแฉทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย จำนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่

นายชูวิทย์ก็ได้ตอบกลับว่า แน่นอน ตนก็จะต้องไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวน และยุบพรรค ทั้งเรื่องของการตั้งนอมินี ให้มารับงานของกระทรวงฯ และการที่บริษัทดังกล่าวบริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย 

ขอให้พรรคภูมิใจไทยพัง ระวังไว้ว่าจะถูกยุบ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดำเนินการก่อนการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ เพราะหากเลือกตั้งผ่านไป เมื่อได้ ส.ส. และถูกยุบพรรค ส.ส.พวกนี้จะมีเอกสิทธิ์ในการย้ายพรรคไปสังกัดพรรคอื่นได้ ตนจึงจะยื่นไปถึง กกต. โดยแจ้งว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤษภาคม2566นี้