จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า วัตถุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 สูญหายจากโรงไฟฟ้าที่ปราจีนบุรี ของบริษัทเนชั่นแนลเพาเวอร์ แพลนท์ 5 A บริเวณนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยสารกัมมันตภาพรังสีซีเซียม 137 จะถูกห่อหุ้มด้วยสารตะกั่วล้อมรอบ และหุ้มด้วยท่อเหล็กกลมขนาด 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัมอีกชั้น ซึ่งทางบริษัทฯ ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท สำหรับผู้ชี้เบาะแสจนนำไปสู่การติดตามกลับคืนมา
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2566 มีรายงานข่าวว่า พบวัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ในโรงหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง ที่ ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี โดยทางจังหวัดปราจีนบุรี มีประกาศปิดโรงงาน หลอมเหล็กในเขตอุตสาหกรรมย่านกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมกันพื้นที่ไม่ให้พนักงานทั้งหมดเข้า-ออกจากโรงงาน เพื่อความปลอดภัย ภายหลัง นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และ นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ลงพื้นที่ออกตรวจการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี , สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี , กรมการปกครอง ออกตรวจการปฏิบัติงานในเขตอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี โดยตรวจโรงหลอมเหล็ก 2 โรงหลอมใหญ่ในจังหวัด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นโรงงานหลอมเหล็กที่ใหญ่ที่สุด มีเตาหลอม 8 เตา ในแต่ละวัน มีรถบรรทุกเศษเหล็กและเหล็กที่หลอมแล้ว เข้า-ออกเป็นจำนวนมาก จึงคาดว่าอาจจะเป็นจุด ซีเซียม 137 อาจ ถูกขายเป็นของเก่าปนมากับเหล็กที่จะเข้ามาทำการหลอมได้ จึงใช้เครื่องมือของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เข้าตรวจวัดสแกนหารังสีตามกองเศษเหล็กที่ถูกบีบอัดเป็นแท่งรอเข้าเตาหลอม พบว่าบางจุดเครื่องตรวจวัดจับสารบางอย่างได้แต่ไม่ระบุชนิด จึงประสานเจ้าหน้าที่พลังงานปรมาณูเพื่อสันติเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด ยืนยันว่าเป็นสารกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สภาพถูกบีบอัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม กองซ้อนกันเป็นชั้นสูง เตรียมหลอมตามรอบช่วงเย็น จึงประกาศปิดโรงหลอมดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ (20 มี.ค. 66) นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง เรื่องเล่าเช้านี้ ถึงการตรวจสอบพบ ซีเซียม-137 ใน เขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยไม่ปฏิเสธกรณีกระแสข่าว ตรวจพบ ซีเซียม-137 ขณะถูกหลอมแล้ว แต่ขอให้ทางสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นผู้แถลงเองในเวลา 11.00 น. ที่ จ.ปราจีนบุรี พร้อมยอมรับว่า มีการปิดกั้นพื้นที่ในบริเวณที่ตรวจพบ เขตอุตสาหกรรมย่านกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ไม่ให้ประชาชนเข้าพื้นที่เป็นการด่วนแล้วเพื่อความปลอดภัย