จากรณีข่าวการสูญหายของ วัตถุกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 จากโรงไฟฟ้าที่ปราจีนบุรี ล่าสุด มีรายงานว่า ตรวจพบแล้วที่โรงงานหลอมเหล็กขนาดใหญ่ใน อ.กบินทร์บุรี โดยคาดว่าสารกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 น่าจะถูกขายเป็นของเก่า แล้วปะปนกับเหล็กที่เข้ามา
ทางด้าน นพ.สมรส พงศ์ละไม แพทย์ประจำศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ได้เคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก Somros MD Phonglamai ถึงอันตรายของซีเซียม-137 ระบุว่า...
"ถ้าซีเซียม-137 (Cesium-137) ถูกหลอมเผาไหม้และกลายเป็นไอ สามารถออกไปได้เป็นหลักร้อยถึงพันกิโลเมตร ขึ้นกับลม (เหตุการณ์ที่เชอร์โนบิล พบว่า ซีเซียม-137 ปลิวไปถึงสวีเดน 1,000 กิโลเมตร) และทำร้ายสิ่งมีชีวิตได้ทั้งการสัมผัสโดยตรง การกิน และการหายใจ
ซีเซียม-137 จะสะสมในดิน น้ำ อาหาร ทำให้เกิดผลเสียต่อสัตว์และมนุษย์ ปลา นก ไก่ หมู หมา แมว วัว ฯลฯ อนุภาคบีต้าและรังสีแกมมา จะทำลาย DNA, ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ ถ้าไม่ตายก็เกิดมะเร็งต่อ โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาวและไธรอยด์
ซีเซียม-137 มีค่าครึ่งชีวิต 30 ปี ดังนั้นจะใช้เวลาในธรรมชาติไม่ต่ำกว่า 100 ปี จึงจะสลายหมด คนที่จะได้รับผลกระทบน่าจะหลายแสน และเป็น 100 ปี จะมีคนเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและไธรอยด์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่เสี่ยง คนที่คิดว่าเสี่ยงต่อการสัมผัส ซีเซียม-137 ควรเฝ้าระวังเร่งด่วน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ผิวหนังไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ
รัฐควรเก็บบันทึกข้อมูลอย่างโปร่งใส มีโอกาสที่คนจะสัมผัสปริมาณมาก ยิ่งคนที่อยู่ใกล้ในระยะ 5-10 เมตร น่าจะอันตรายมาก (ไม่รู้ว่าระยะจริงที่ปลอดภัยเท่าไหร่ เพราะขึ้นกับความเข้มข้นที่เหลืออยู่และ shield ที่ป้องกัน)
รอการประกาศเร่งด่วนอย่างเป็นทางการและโปร่งใสจากหน่วยงานของรัฐอีกทีนะครับ
หมายเหตุ : ข้อมูลเบื้องต้นที่ค้นเอง และไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านปรมาณูนะครับ"
ล่าสุดวันนี้ (20 มี.ค. 66) มีรายงานว่า นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ปฏิเสธ ซีเซียม-137 ถูกหลอมจริง ขอให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) แถลงเพื่อความกระจ่าง ในเวลา 11.00 น.ของวันนี้ ขณะนี้ได้กันพื้นที่ไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้โดยรอบพื้นที่โรงงานแห่งนี้แล้ว