จากกรณีประเด็นร้อน หลัง ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ออกมาแถลงข่าวถึงกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงเรื่องค่าแถลงข่าว 3 แสนบาท ซึ่งระหว่างการแถลงข่าวในครั้งนี้ยังมีชื่อการพาดพิงถึงทนายหญิงคนหนึ่งว่าเรียกเก็บเงิน 3 แสนบาทกับลูกความ หลังพาไปออกรายการโหนกระแส
จนกระทั่งมีการพุ่งเป้าไปที่ "ทนายนิด้า ศรันยา" ซึ่งเธอได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมตั้งคำถามกลับทนายตั้ม รังแกหนูทำไม อีกทั้งซัดกลับไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
โดยต่อมวันที่ 28 มี.ค. 66 ทางด้านเพจบิ๊กเกรียน ได้ออกมาโพสต์เปิดสลิปการโอนเงิน จำนวน 350,000 บาท ซึ่งอ้างว่าเป็นสลิปที่ผู้เสียหายโอนให้กับทนายชื่อดัง หลังไปร่วมออกรายการโหนกระแส ซึ่งจากภาพดังกล่าวทำให้สังคมทราบว่า ผู้เสียหายรายนี้คือ แม่น้ำหนึ่ง เจ้าแม่ใบ้หวยชื่อดัง ซึ่งต่อมา แม่น้ำหนึ่ง ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงว่าได้โอนเงินเป็นค่าวิชาชีพทนายจริง
ล่าสุดวันที่ 29 มี.ค. 2566 ทนายนิด้า ได้ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมโพสต์ภาพสลิปการโอนเงิน ระบุว่า "แหม่ ทิ้งบอมบ์ละเงียบเลยนา สรุปหลักฐานเด็ดที่จะแหกลุงชูวิทย์ก็ไม่มี มีแต่ปั่นหุ้นเอาตัวเองอยู่หน้าสื่อไปวันๆ เรียกเรตติ้งแล้วเอาชื่อเสียงหากินโจมตีคนอื่น รู้สิบเล่าร้อย รู้น้อยเล่าเยอะตามสไตล์ ใช้ประโยคชั่วๆ ชี้นำสังคมให้คนรุมด่าคนที่ตัวเองเกลียดขี้หน้าได้ ถือเป็นทักษะชั้นสูง เรานี่มันแน่นอนจริงๆ นับถือหายเจ็บจากสังคมรุมด่าเรียกค่าถูกฟ้องคดีในอนาคตแล้วก็มาแหกลุงชูต่อเด้อ หนูเคียงข้างพี่เสมอ หนูยังไหว #ทนายนิด้า#ทนายหญิงสายลุย"
ซึ่งทนายสาวยังคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า "ที่ไม่ได้ออกมาพูดถึงแต่แรกว่าเคยรับค่าว่าความจากใครบ้าง คดีอะไรบ้าง เพราะสัญญากับลูกความไว้ว่าจะไม่ไปแตะชื่อเขา เขาไม่อยากถูกนักข่าวรุมถามรุมสัมภาษณ์ ถ้าชี้แจงว่าในวันออกโหนกระแสมีรับเงินค่าวิชาชีพทนายความ เพื่อไปทำอะไรยังไง คนจะคาดเดาได้ไม่ยากหรอกว่าหมายถึงน้องน้ำหนึ่ง เราก็ต้องให้ความเป็นส่วนตัวของน้องที่จะไม่มาถูกรบกวนในเรื่องที่น้องไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย แต่วันนี้น้องออกมาพูดแล้วว่าเคสดังกล่าวหมายถึงน้องเอง นิด้าจึงค่อยได้มาพูดค่ะ"
"พวกที่บอกว่าพูดซะแต่แรกก็จบว่ารับเงิน เอาจริงๆมันควรจะจบตั้งแต่ปฏิเสธไปแล้วว่าไม่จริง ตุ้มบอกว่า ทนายหญิงเรียกค่าพาออกโหนกระแสครั้งละ 300,000฿ ถึงวันนี้ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า กรุไม่เคย"